รวบตัว ! "หนุ่มเพี้ยน" ราดน้ำมันเผาร่าง "หลวงปู่เปียก" เกจิดังแดนใต้ แต่ปาฏิหาริย์ไฟไม่ไหม้
9 ม.ค. 2564, 07:58
วันที่ 8 ธ.ค. 64 ร.ต.ต. มนตรี เกิดมี ร้อยเวร สภ. ท่าแซะ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ได้รับแจ้งจากพระของวัดนาสร้าง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ว่าร่องรอยที่มีคนร้ายทุบประตูวิหารที่เก็บ สังขารของ หลวงพ่อเปียก” หรือ พระครูอนุกูลกิจการี ปทุโม อดีตเจ้าอาวาสวัดนาสร้าง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร โดยสังขารของท่านไม่เน่าเปื่อย
จากนั้นได้มีการทุบกระจกโลงแก้วที่บรรจุสังขารของ “หลวงปู่เปียก” แล้วราดน้ำมันเพื่อเผาร่างจึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยตรวจสอบ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ทางด้าน พ.ต.อ.นวัชนันท์ ศิธราชู ผกก.สภ.ท่าแซะ พร้อมด้วย พ.ต.ท.แสงเพชร สานนท์ รองผ.ก ก.ป.ฯ พ.ต.ท.ยุทธนา ทองปาน รอง ผกก.สส.ฯ พ.ต.ต.สุรศักดิ์ พนัสนาชี สวป.สภ.ท่าแซะ ร.ต.อ.ธีรพร คงนวล รอง สว.(สอบสวน)ฯร้อยเวร30 ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบ ที่วัดนาสร้าง พบชาวบ้านในละแวกนั้นที่เคารพรพบูชาและศรัทธาในตัวหลวงปู่เปียกกว่า 100 คน ได้ช่วยกันฉีดน้ำดับไฟภายในวิหารและพร้อมกันเก็บกวาดเศษแก้วกระจกที่แตกออก และช่วยกันดับไฟจนมอดแล้ว พร้อมมอบพื้นที่ให้ จนท.ตำรวจมาตรวจสอบหาหลักฐานต่างๆ ที่คนร้ายใช้เผาโดยบริเวณใกล้ๆกัน ทางใต้ฐานที่ใสสังขารแก้ว พบมีดพร้า 1 เล่ม และขวดสำหรับใส่น้ำมันตกอยู่ใกล้กัน จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นจึงได้ทำการสอบสวนผู้ที่มาพบเห็นและผู้แจ้ง
ทางด้านพระจญูณ ชลาลัย อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นพระลูกวัดนาสร้าง ได้ให้การกับตำรวจว่า “ขณะที่ตนเองตื่นมาเวลาประมาณ 6 โมงเช้า ตนได้ออกมากวาดลานกุฏิ ซึ่งไม่ไกลกับวิหารประมาณ 30 เมตร ได้ยินเสียงซึ่งเป็นเสียงเหมือนแก้วแตก 2 ครั้ง จึงได้หยุดนิ่งเพื่อฟังว่า เสียงมาจากที่ใด จากนั้นมีเสียงดังอีกครั้งมาจาก วิหารที่เก็บสังขารของ “หลวงปู่เปียก” ตนจึงได้วิ่งมาดู พร้อมได้กลิ่นน้ำมันจึงเห็นเปลวไฟพวยพุ่งขึ้นมาจนถึงหลังคาวิหาร จึงผลักประตูวิหารเข้าไปดู เห็นคนร้ายก็วิ่งสวนตนออกมาจึงตะโกนถามว่า “ทำอะไร” คนร้ายยกเอามีดพร้าขึ้นขู่ ตนเองกลัวว่าจะโดนมีดฟัน จึงใช้ไม้กวาดที่ถือมาแกว่งเพื่อป้องกันตัวและไปโดนลำตัวคนร้าย 2 ที่ จากนั้นคนร้ายก็ทิ้งมีดแล้ววิ่งหนีไป ด้านหลังหลังวิหาร ตนเองจึงวิ่งกลับมาพร้อมโทรแจ้งตำรวจ
ทางด้านนายพรศักดิ์ เสนาสวัสด์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.8 ท่าแซะ กล่าวว่า การกระทำของคนร้ายในครั้งนี้ เป็นการทำลายจิตใจคนท่าแซะและใกล้เคียงอย่างยิ่ง เพราะ “หลาวปู่เปียก” เป็นพระเกจิที่เคารพบูชา ทำให้ชาวบ้านโกรธแค้นในตัวคนร้ายที่ทำในครั้งนี้ ได้มาสาปแช่งสารพัดต่างๆนาๆ และเพื่อให้กำลังใจตำรวจที่จับคนร้ายได้ ส่วนสาเหตุที่ไฟไหม้ได้เท่านี้ก็เพราะปาฏิหาริย์ของ “หลาวปู่เปียก” จึงทำให้เพลิงที่ลุกไหม้ด้วยการราดน้ำมันนั้นไหม้ได้เพียงเท่านี้ ซึ่งชัดเจนว่าหากไม่ใช่ปาฏิหาริย์ได้อย่างไร และในเวลาต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่าสามารถจับคนร้ายที่เผาวิหารหลวงปู่เปียกได้แล้ว ทำให้ชาวบ้านดีใจหลั่งไหลกันเดินทางมาที่วัดจนแน่นลานวัด เพื่อจะขอดูหน้าคนร้ายที่เผาวิหารในครั้ง
พ.ต.อ.นัชนันทร์ ศิธราชู ผกก. สภ.ท่าแซะ กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบกล้องวงจรปิด จึงว่าเป็นชายอายุประมาณ 20 – 25 ปี มีรอยสักที่แผ่นหลัง รูปร่างผอมสูง ประมาณ 170 ซม. ผิวดำแดง ใช้รถจักรยานยนต์ ดับแปลงสภาพวิบาก และในเวลาประมาณ 08.30 น. พบชายดังกล่าวชื่อ นายศักดิ์กฤษฎ์(นุ้ก) มาน้อย อายุ 26 ปี ที่บ้านเลขที่ 76 ม.2 ต.ทรัพย์อนันต์ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร และจึงได้สอบถาม และให้การรับสารภาพว่าเป็นบุคคลก่อเหตุดังกล่าว จึงทำการจับกุมและควบคุมตัว ส่ง พงส. สภ.ท่าแซะ และได้นำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ ท่ามกลางชาวบ้านที่มายืนมุงดู