ปัตตานียังท่วมหนัก บางจุดใช้เรือสัญจร ทหารเร่งช่วย 2 ด.ช.ถูกซัดไปติดต้นยาง
11 ม.ค. 2564, 14:46
วันที่ 11 ม.ค. สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดปัตตานียังคงวิกฤติ หลังมวลน้ำจาก จ.ยะลา ไหลลงสู่แม่น้ำปัตตานีอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายอำเภอต้องประสบกับน้ำท่วมในระดับสูง โดยเฉพาะในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี ที่เป็นพื้นที่ปลายน้ำก่อนที่น้ำจะไหลลงสู่ทะเล อีกทั้งเมื่อคืนที่ผ่านมา เกิดน้ำทะเลหนุนทำให้การระบายน้ำช้าลง
พบว่า ถนนในเขตเทศบาลยังคงเต็มไปด้วยน้ำที่ยังท่วมสูง บางสายต้องปิดถนน เนื่องจากน้ำที่ท่วมสูง 30-40 ซม. ถนนสายหนองจิก ตั้งแต่วงเวียนหอนาฬิกาไปถึงบ้านดอนรัก ระยะทาง 2 กิโลเมตร ยังมีน้ำไหลแรงมาจาก ต.ปะกาฮารัง ต้องปิดเส้นทางขาออกเพราะน้ำท่วมสูง เปิดเพียงเส้นทางเดียวคือขาเข้าเมือง แต่รถเล็กไม่สามารถผ่านไปได้
สำหรับพื้นที่เขตเทศบาลเมือง ถนนหลังวัง ต.จะบังติกอ อยู่ติดแม่น้ำปัตตานี น้ำได้เอ่อล้นทะลักเข้าท่วมหนัก ระดับน้ำสูง 2-3 เมตร มีบ้านเรือนของประชาชนได้รับผลกระทบเกือบ 100 ครัวเรือน บางหลังไม่สามารถอยู่อาศัยได้ เจ้าของบ้านต้องย้ายไปอาศัยอยู่กับญาติ การเดินทางเข้าออกจึงต้องใช้เรือเป็นยานพาหนะออกมาซื้อของ ส่วนคนที่ไม่มีเรือ ต้องอยู่แต่ในบ้าน หรือรอเรือเพื่อนบ้านผ่านมาจึงสามารถออกจากบ้านได้
เช่นเดียวกับที่ หมู่ 7 ต.ตะลุโบ๊ะ อ.เมือง อีกหมู่บ้านที่อยู่ติดแม่น้ำปัตตานีที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเช่นกัน กว่า 500 ครัวเรือน ล่าสุดมีน้ำท่วมสูงถึง 2-3 เมตร อย่างไรก็ตาม สถานการณ์น้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี ระดับน้ำยังคงมีประมาณที่สูงขึ้นเนื่องจากน้ำเอ่อล้นแม่น้ำปัตตานีได้ทะลักเข้าท่วมอย่างต่อเนื่อง ทางเจ้าหน้าที่พยายามเร่งระบายน้ำเพื่อไหลลงสู่ทะเล
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.อ.สุภัทร ชูตินันทน์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 20 จ.ปัตตานี ว่า ขณะเจ้าหน้าที่หน่วยกำลังทหารพราน ร้อย ทพ.2008 จ.ปัตตานี 7 นาย กำลังเดินลาดตระเวนบริเวณสะพานปรีกี ม.1 บ้านกอตอระนอ ต.คลองใหม่ อ.ยะรัง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกิดน้ำท่วมสูง 2-3 เมตร เพื่อดูแลความปลอดภัยและช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในพื้นที่รับผิดชอบ และบริเวณดังกล่าว เป็นพื้นที่ป่าสวนยางพาราทั้งสองฟากฝั่งถนน
ขณะเดินลุยน้ำลาดตระเวนอยู่นั้น ได้พบเห็นเด็กผู้ชาย อายุประมาณ 10-12 ปี จำนวนหนึ่งตะโกนเรียกขอความช่วยเหลือ กำลังเจ้าหน้าที่จึงได้รีบลุยน้ำเข้าไป และพบว่า มีเด็กชาย 2 คนเกาะต้นไม้ท่ามกลางกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก ห่างออกไปประมาณ 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงได้ถอดเสื้อชูชีพ 2 ตัว เพื่อให้เจ้าหน้าที่ 2 นายว่ายเข้าไปช่วยเหลือ ให้เด็กทั้งสองใส่เสื้อชูชีพ จากนั้นจึงปฏิบัติการเข้าช่วยเหลือทันที โดยการจับมือกันให้ได้ระยะที่ใกล้ที่สุด ก่อนที่เจ้าหน้าที่ 2 นาย เข้าช่วยเหลือพยุงร่างเด็กทั้ง 2 คนออกมาได้สำเร็จ
จากการสอบสวนทราบว่า เด็กชายทั้งสองเดินเล่นน้ำออกมาจากหมู่บ้านเพื่อไปอีกหมู่บ้านหนึ่ง ซึ่งจุดที่เดินมีน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร และบางจุด 2 เมตร ปรากฏว่า ขณะที่เดินไม่ทันสังเกตว่าบริเวณดังกล่าวเป็นจุดที่น้ำเชี่ยวและไหลแรง ทำให้ทั้งสองถูกกระแสน้ำพัดร่างลอยออกไปจากถนน เข้าไปในสวนยางพารา จึงตะโกนบอกกันให้เกาะต้นยางไว้เพื่อรอคนมาช่วย