ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า เนื่องจากขณะนี้เกิดสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด -19 รอบใหม่ ทางรัฐบาลจึงได้มีนโยบายขอความร่วมมือให้ประชาชนทำงานที่บ้าน (เวิร์กฟรอมโฮม) เพื่อลดความเสี่ยงในการระบาดของโรคดังกล่าว ซึ่งอาจจะทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากภาระค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น

กระทรวงพลังงาน จึงได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) พิจารณามาตรการด้านไฟฟ้าเพื่อช่วยเหลือ และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่มีภาระค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจากมาตรการ ของภาครัฐ ซึ่งได้เสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีและได้มีการเห็นชอบ 3 มาตรการ โดยใช้งบประมาณรวมทั้งสิ้น 8,202 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัย และกิจการขนาดเล็ก ครอบคลุมผู้ใช้ไฟฟ้าจำนวนรวม 23.70 ล้านราย หรือ คิดเป็น 97% ของผู้ใช้ไฟฟ้าทั่วประเทศ เป็นระยะเวลา 2 เดือน ในระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2564 ประกอบด้วย

มาตรการที่ 1 สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัย ที่ติดตั้งมิเตอร์ไม่เกิน 5 แอมป์ และใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 150 หน่วยต่อเดือน ได้แก่ ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทที่ 1.1 ของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ประเภทที่ 1.1.1 ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ลูกค้ารายย่อยของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และประเภท 10 ของกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ (กิจการไฟฟ้าสวัสดิการฯ) รวมจำนวน 10.13 ล้านราย ซึ่งจะได้รับค่าไฟฟ้าฟรี 90 หน่วยแรกทุกราย

มาตรการที่ 2 สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าเกิน 150 หน่วยต่อเดือน ได้แก่ ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทที่ 1.2 และ 1.3 ของ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ประเภท 1.1.2 และ 1.2 ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ลูกค้ารายย่อยของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และประเภท 11 ของกิจการไฟฟ้าสวัสดิการฯ รวมจำนวน 11.83 ล้านราย โดยจะได้รับส่วนลดค่าไฟฟ้าในส่วนของหน่วยการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นจากบิลค่าไฟฟ้าซึ่งใช้เดือนธันวาคม 2563 เป็นฐานในการคำนวณส่วนลด ทั้งนี้ ในการดำเนินงานดังกล่าวให้เป็นส่วนลดค่าไฟฟ้าก่อนการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยมีแนวทางการคิดค่าไฟฟ้า ดังนี้