"แม่นกน้อย" เปิดใจขายบ้านตองห้า 70 ล้าน ต่อสมหายใจหมอลำเสียงอีสาน-รักษาสามีป่วย
15 ม.ค. 2564, 20:24
ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า จากกรณีนางอุไร ฉิมพลี หรือนกน้อยอุไรพร ได้แถลงข่าวผ่านเพจเฟซบุ๊ก เสียงอิสาน นกน้อย อุไรพร เล่าความในใจหลายเรื่องว่า ถือเป็นการพูดเปิดใจ แถลงข่าวให้แฟนเพลงหมอลำเสียงอิสานได้รับทราบ หลังจากที่ยื้อเวลามาเกือบเดือนที่คุณพ่อหลอด หรือนายมัยกิจ ฉิมหลวง อายุ 68 ปี ซึ่งเป็นสามีป่วยหลายโรค ทั้งความดัน เบาหวาน โรคไต โรคตับ จนต้องเข้ารับการรักษาพยาบาล และมาปีนี้ทางคณะเสียงอีสานเตรียมเดินสายเปิดวงก็มาเจอโควิด-19 รอบที่ 2 แต่โควิด-19 รอบนี้คิวการแสดงของคณะเสียงอีสานกว่า 100 งานถูกยกเลิกทั้งหมดไปถึงปี 2566
ต่อมาในวันนี้ (15 ม.ค.64) เวลา 16.00 น. ที่บ้านพักเลขที่ 555 บ้านหนองใส ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี นางอุไร ฉิมหลวง หรือนกน้อย อุไรพร ศิลปินลูกทุ่งหมอลำ ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวครั้งแรกว่า ขณะนี้อาการของสามีล่าสุดมีอาการดีขึ้น ไม่มีภาวะติดเชื้อ และย้ายมารักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลอุดรธานี สำหรับบ้านที่ประกาศขายไปตัวบ้านพร้อมที่ดินมีพื้นที่ 4 ไร่กว่า ซึ่งยังไม่รวมพื้นที่ทั้งหมดที่มีราว 50 ไร่ บ้านหลังนี้สร้างขึ้นประมาณปี 2538 แล้วเสร็จปี 2550 ใช้เงินสร้างตอนนั้นประมาณ 100 ล้านบาท ใครสนใจก็มาพูดคุยได้ ตอนนี้มีคนสนใจติดต่อเข้ามาเยอะมากทั้งนายหน้าและนายทุน แต่ยังไม่สามารถตกลงราคากันได้ “ในใจคิดว่าจะขายเฉพาะบ้านพร้อมที่ดิน 4 ไร่ ประมาณ 70 ล้านบาท ซึ่งหากขายบ้านได้จะนำเงินไปรักษาอาการป่วยตัวสามี และจะนำเงินไปใช้หนี้ ซึ่งทั้งหมดตอนนี้มีหนี้ประมาณ 30 ล้าน ส่วนที่เหลือก็จะนำไปสานต่อคณะหมอลำเสียงอีสานต่อไป
แม่นกน้อย บอกอีกว่า สำหรับวงเสียงอีสานนั้นขอยืนยันยังจะคงอยู่ยังไม่มีการยุบวง” จากผลกระทบโควิด-19 ทั้ง 2 รอบ ต้องยอมรับว่ามีผลกระทบเป็นลูกโซ่ยาว รอบแรกยังทนผ่านมาแล้ว และดีที่มีโครงการพักชำระหนี้ช่วยเหลือ พอมาการระบาดของเชื้อโควิด-19 รอบ 2 งานที่รับไว้รับไปแล้วร้อยกว่าคิวงานก็ยกเลิกเลื่อนไปเป็นปี 2566 คิดเป็นความเสียหายประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งไม่นับความเสียหาย ที่โควิด-19 รอบที่ 1
ตอนนี้ได้กำลังใจจากคนวงการเดียวกันจำนวนมากมาให้กำลังใจ ทุกคนทุกคณะพร้อมที่จะจัดงานคอนเสิร์ตเพื่อหารายได้ช่วยเหลือในวันที่ 19-20 มกราคมนี้ โดยจะจัดการแสดงสดไม่มีการขายบัตรและถ่ายทอดผ่านสื่อโซเชียลทุกแพลตฟอร์ม ณ บ้านเลขที่ 555 สำหรับใครที่อยากจะช่วยเหลือก็สามารถเข้ามาชมได้ที่เพจ เสียงอิสาน นกน้อย อุไรพร หากชื่นชอบผลงานสามารถมอบมาลัยน้ำใจ โดยโอนเงินเข้าบัญชีได้ตามหมายเลขที่ขึ้นหน้าจอที่จะรับชม ในวันนั้นเวลา 18:00 น. ถึง 01:00 น. ทั้งนี้มีศิลปินตอบรับมาแล้ว อาทิ ฝนธนสุนทร ระเบียบวาทศิลป์ ประถมบันเทิงศิลป์ วีระพงษ์วงศ์ศิลป์ เป็นต้น
ด้านนายบุญล้อม หงทอง อายุ 32 ปี ดาราตลก เจ้อ้วนสาวปะโค เปิดเผยว่า ถึงแจะมาอยู่วงเสียงอีสานได้แค่ 2 ปี เราก็มีผูกพัน จำความได้สมัยนั้นเรารู้จักวงนกน้อยเสียงอีสานตอนประถม 5 ตอนนั้นเสียงอีสานก็โดงดังมากก็เลยอยากมาอยู่ ฤดูกาลแสดงปี 2564 นี้ เพิ่งออกงานแสดงได้เกือบ 2 เดือน หลังรู้ข่าวว่าคุณแม่นกน้อยจะขายบ้านรู้สึกหดหู่ใจ ไม่อยากให้แม่ขายบ้าน ความรู้สึกที่มีต่อแม่นั้นส่วนตัวแม่นกฯ เป็นคนใจดีนะรักทุกคนในวง เมื่อไม่มีการแสดงช่วงนี้ลูกๆ ในวง ไม่ว่าจะเป็นตลก คอนวอย หางเครื่อง ตอนนี้หันมาค้าขายอาหารหน้าบ้านเลขที่ 555 เพื่อหารายได้เลี้ยงดูตัวเองไปก่อน บอกตามตรงอีกครั้งรู้สึกหดหู่ใจมากที่แม่ต้องประกาศขายบ้านเพื่อมาต่อลมหายใจหมอลำชื่อดัง ตนเองมาอยู่กับคณะเสียงอีสานได้เพียง 2 ปี แม่นกน้อยเห็นแววเป็นตลกได้จึงจับขึ้นเวทีเป็นดาวตลกในวงทันที
ส่วนนางรัตนพร วรงค์ อายุ 58 ปี และ นายสมรชัย วรงค์ อายุ 63 ปี ชาว อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ และเป็นสองสามีภรรยาที่มาอยู่กับแม่นกน้อยตั้งแต่ พ.ศ.2537 รวม 27 ปี เปิดเผยว่า เป็นลูกพี่ลูกน้องกับแม่นกน้อย มาอยู่กับแม่นกน้อยสมัยวงดังมากช่วงนั้น ก็มาช่วยแม่นกน้อยเป็นแม่บ้านและสามีเป็นพ่อบ้านทำงานทุกอย่าง ไม่มาเงินเดือนแต่เรามาอยู่แบบเป็นพี่เป็นน้องกัน มีอะไรก็กินด้วยกัน แต่มาเจอวิกฤติโควิด-19 สงสารแม่นกน้อยมาก อยากให้มีวงหมอลำเสียงอีสานต่อไปคู่วัฒนธรรมอีสาน ไม่อยากให้วงเสียงอีสานต้องยุบไปกับโควิด-19 เลย