ภายหลังออกมาจากห้องประชุม นายเฮ็ทไว พะโย ท่านฑูตแรงงานเมียนมาร์ประจำประเทศ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ผ่านล่ามแปล เปิดเผยว่า ที่เดินทางมาเพื่อมาติดตาม และรับฟังการดำเนินคดี ของตำรวจไทย (สภ.บ่อผุด)  ตำรวจไทย ทำงานไวมาก และ นำผู้กระทำความผิด ที่เป็นตำรวจของรัฐบาลไทยดำเนินคดีไปแล้วนั้น ซึ่งจากการได้รับฟังรายงานสรุปแล้ว ผลเป็นที่น่าพอใจ ทูตแรงงานเมียนมายังกล่าวอีกว่า สำหรับ ทางน.ส.โมโม ผู้เสียหาย ภายหลังได้พบและพูดคุยกับทางคณะจากสถานทูต ก็มีขวัญและกำลังใจดี และจะรอผลทางคดี ที่ประเทศไทย 

 

ด้านผู้สื่อข่าว ได้ถามว่า จากที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นมา จะทำให้ความสัมพันธ์ ระหว่างไทยกับเมียนมา มีผลกระทบหรือไม่ ซึ่งนายเฮ็ทไว พะโย ฑูตแรงงานเมียนมาร์ประจำประเทศไทย  กล่าวว่า ในส่วนของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กับเมียนมา ทั้ง 2 ประเทศมีความสัมพันธ์กันดีอยู่แล้ว และเข้าใจกัน และไม่มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์แต่อย่างใด ทูตแรงงานเมียนมากล่าว

 

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับทางคดี ทางพนักงานสอบ ได้แจ้งข้อกล่าว กับ ด.ต.วัชรินทร์ สินสโมสร สิบเวร ในข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลัง ประทุษร้าย โดยผู้อื่นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด , เป็นเจ้าพนักงานมีตำแหน่งหน้าที่ควบคุมดูแลผู้ที่ต้อง คุมขังตามอำนาจของพนักงานสอบสวน หรือ ของเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา กระทำด้วยประการใดให้ผู้ที่อยู่ระหว่างคุมขังนั้นหลุดพ้นจากการคุมขังไป ในชั้นสอบสวน” พร้อมขออำนาจศาลจังหวัดเกาะสมุยฝากขังไปแล้ว และมีการประกันตัวไปแล้วนั้น

 

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้สอบถาม พ.ต.ต.แดนชัย บุญธรรม สว.สอบสวน สภ.บ่อผุด เจ้าของคดี ถึงขั้นตอนดำเนินการในขั้นตอนต่อไป ว่าในขั้นตอนต่อไป ทางพนักงานสอบ อยู่ระหว่างเร่งสรุปสำนวนคดี ทั้งหมด เพื่อส่งให้ ทาง ปปช. (คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ) ภายใน 30 วัน จากนั้น ทาง ปปช.ก็จะส่งเรื่องต่อให้อัยการ ตรวจสอบพร้อมส่งสำนวนต่อไปยัง ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ต่อไป