จากคดีการเสียชีวิตของ น้องชมพู่  เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ที่หายออกจากบ้านพักที่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ก่อนจะพบว่าเสียชีวิตบนเขาภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้านพักประมาณ 5 กิโลเมตร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามหาหลักฐานเพื่อคลี่คลายคดีนานหลายเดือน 

ล่าสุดวานนี้ (17 มกราคม 2564) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้ไลฟ์สดพูดคุยในคดีดังกล่าวว่า ทางชมรมได้มีสายสืบแฝงตัวอยู่ที่บ้านกกกอด จ.มุกดาหาร 2 ชุด 

 

การแฝงตัวครั้งนี้ปลอมตัวเป็นยูทูปเบอร์ คนขายของ คนกวาดขยะ และอื่นๆ ใช้เวลานาน 7 เดือน และแบ่งเป็น 2 ฝ่าย ทั้งฝั่งบ้านครอบครัวน้องชมพู่ที่สังคมสงสัย หรืออีกฝ่ายที่มีคนสงสัย ซึ่งการเข้าถึงตัวเทวดา -นางฟ้า ค่อนข้างยาก เพราะเป็นคนฉลาด 

สิ่งที่เทวดา นางฟ้า จะเข้าได้ต้องยอมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นบทความ การลงข่าว ตนมองว่าน้องชมพู่เป็นเหยื่อที่ต้องได้รับการเยียวยา และหาตัวคนร้าย จากการสืบครั้งนี้ได้ผลลัพธ์และนำมาเขียนบทความ

ตนต้องขอโทษครอบครัวน้องชมพู่ที่เคยตั้งข้อสงสัย ตลอดเวลา 7 เดือน ได้เห็นความเป็นอยู่ที่เสมอต้นเสมอปลาย ไม่หวังผลแอบแฝง รายได้ และไม่มีเหตุจูงใจที่จะฆ่าลูกสาว 

ทางยูทูปเบอร์ที่แฝงตัวในบ้านกกกอดและรูปแบบอื่นๆ ยังอยู่อีก 1 ชุด เพื่อดูพฤติกรรมผู้ต้องสงสัยในการหลบหนี ตอนนี้ข้อมูลค่อนข้างชัดเจน ขอยกตัวอย่างว่า ตร.บอกผู้ต้องสงสัยผมยาว จะมีคนหนึ่งไปโกนผมทันที การแสวงหาผลประโยชน์ที่สร้างความร่ำรวย และที่หมู่บ้านกกกอด มักมีบางคนชอบเล่นของไสยศาสตร์ ดังนั้นเส้นผมของน้องชมพูที่ถูกตัด น่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ 

ส่วนมูลเหตุจูงใจมีหลายประเด็น เอาไว้รอตำรวจจะอธิบายให้ฟังเอง เราจะไม่ก้าวล่วงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่มูลเหตุมาจากความอิจฉาริษยา และมีเรื่องของการทะเลาะเบาะแว้งกัน