เมื่อเวลา 17.40 น. ของวันที่ 18 ม.ค. 64 ร้อยตำรวจโทวัชญานนท์ ศรกาดำ ร้อยเวรสอบสวน สภ.อินทร์บุรี รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้าน บริเวณใกล้เคียงวัดประสาท ม.4 ต.อินทร์บุรี อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี จึงประสานรถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลอินทร์บุรี อบต.อินทร์บุรี และเทศบาลตำบลทับยามาระงับเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าว
 
เมื่อรุดไปยังที่เกิดเหตุ พบไฟกำลังไหม้บ้าน 2 หลัง ลักษณะเป็นบ้าน 2 ชั้น ชั้นบนเป็นไม้ ด้านล่างเป็นปูน คือบ้านเลขที่ 31/1  และ 31/2 และกำลังลุกลามไปอีก1หลัง เลขที่25/2 ซึ่งอยู่ในเขต ม.4 ตำบลอินทร์บุรี อ.อินทร์บรี จ.สิงห์บุรี โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้สกัดเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังหลังที่3 ได้ส่วนนึง
จนเวลา18.30 น.เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ทั้ง 2 หลัง หลังแรกเป็นของนางสวิง คำจันทร์ทึก และอีกหลัง เป็นของนางสาวกาญจนา ม่วงกร บ้าน 2 หลังนี้ เป็นแม่ลูกกัน ผู้ก่อเหตุเป็นลูกชายและพี่ชายของบ้าน 2 หลังนี้

จากการสอบถาม นางศรีนวย บุญเพชร อายุ 64 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนเองได้เห็นควันขึ้นบนหลังคาบ้านที่เกิดเหตุ จึงรีบวิ่งตะโกนบอกเจ้าของบ้าน ซึ่งในขณะนั้นนางสวิงเจ้าของบ้านขายของอยู่ คนข้างบ้านได้ยินเสียงร้องไฟไหม้รีบออกมาดู เห็นอีกทีไฟลุกท่วมแล้ว ชาวบ้านระแวกนั้นเล่าว่า นายมืด ลูกชายเจ้าของบ้าน เป็นคนเผาบ้านแม่ตนเอง อีกทั้งเมื่อช่วงเช้านายมืดได้โวยวายคนเดียวด้วยความมึนเมาก่อนทำการเผาบ้าน โดยนายมืดมีนิสัยชอบไล่ซ้อมคนในครอบครัว เคยเรียกตำรวจมาจับไปครั้งนึงก่อนหน้านี้ จนในที่สุดได้มาก่อเหตุเผาบ้านแม่ตนเองและลุกลามไปยังบ้านน้องสาวตนเอง และในขณะที่เพลิงลุกไหม้นายมืดได้เตรียมกระโดดหนีแต่ชาวบ้านรีบคว้าตัวไว้ได้ทัน

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ต่อไปยัง สภ.อินทร์บุรี เพื่อสอบถามผู้ต้องหา ทราบชื่อภายหลัง นายเจษฎา ม่วงกร อายุ 33 ปี หรือนายมืด ผู้ก่อเหตุได้รับสารภาพว่าเผาบ้านตนเองจริง สาเหตุเกิดจากแค้นแม่ โดนอ้างว่าแม่ตนเองทำให้ภรรยาหนีไปจึงโกรธแค้นและเผาบ้านในช่วงเวลาที่ไม่มีใครอยู่บ้าน โดยดูดน้ำมันจากรถจักรยานยนต์ มาราดและจุดไฟเผาดังกล่าว