วันที่ 20 ม.ค. 64 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ร.ต.อ.อภิชัย พุ่มชัย รอง สว.(สอบสวน) สภ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่าเกิดเหตุเพลิงกำลังลุกไหม้ แพพักหรูตั้งอยู่แม่น้ำแควน้อย ของไทรโยควิว รีสอร์ท ท้องที่หมู่ 2 ต.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงานยให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภุชงค์ ณรงค์อินทร์ ผกก.สภ.ไทรโยค พ.ต.ท.อภิชาติ หงส์ไพบูลย์ รอง ผกก.สส.สภ.ไทรโยค พ.ต.ท.บัญญัติ ไชยโกฎิ รองผกก.(สอบสวน) สภ.ไทรโยค พ.ต.ท.สนธยา ฉายเกียรติ์ขจร สว.สส.สภ.ไทรโยค รวมทั้งเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตำรวจ และมูลนิธิกู้ภัยกาญจนบุรี

 

 

ไปถึงพบแพพักสร้างติดกันหลายหลัง โดยเปลวเพลิงกำลังโหมลุกไหม้แพพักบันไดทางลง โดยพนักงานของรีสอร์ทดังกล่าวช่วยกันฉีดน้ำสกัดเปลวเพลิงกันอย่างฉุกละหุก ระหว่างนั้นจำเป็นต้องรีบตัดแพหลังที่อยู่ติดกันออก เพื่อป้องกันเปลวเพลิงลุกลามไปไหม้ โดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ แต่ต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงเอาไว้เพื่อป้องกันการปะทุลุกไหม้ขึ้นมาอีก

 

จาการสอบถามนายวสันต์ สดใส เจ้าของและผู้ดูแล ให้การ ตนมีแพพักที่สร้างติดกันอยู่ประมาณกว่า 20 หลัง ขณะเกิดเหตุไฟไหม้นั้นไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาพัก เนื่องจากต้องปิดให้บริการตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ตามมาตรการของท่านผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี อย่างเข้มข้น

 

สำหรับแพหลังที่เกิดไฟไหม้ตั้งอยู่ตรงกลางของแพทั้งหมด ซึ่งขณะเกิดเหตุพนักงานของรีสอร์ท ได้ช่วยกันปั้มน้ำฉีดสกัดเปลวเพลิงกันอย่างเต็มที่ ส่วนรถดับเพลิงที่มาจากเทศบาลตำบลไทรโยค และ ทต.ลิ่นถิ่น ก็ได้เข้ามาช่วยเหลือ แต่เนื่องจากเส้นทางคับแคบจึงไม่สามารถช่วยได้มากนัก

ส่วนแพพักหลังที่เกิดไฟไหม้นั้นมีความกว้าง 12 เมตร ยาว 24 เมตร มี 8 ห้องนอน 8 ห้องน้ำ สร้างมาได้ประมาณ 9 ปี และไม่เคยต่อเติมหรือเปลี่ยนอุปกรณ์ โดยในแต่ละห้องมีชุดเครื่องนอน แอร์ และพัดลม หลังคาแพ็ค มุงด้วยกระเบื้องยางมะตอยผสมกับหิน หรือเรียกว่าห้อง Single room แพหลังที่ถูกไฟไหม้เสียหายประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ เหลือเพียงแค่ทุ่นลอยน้ำกับพื้นแพเท่านั้น ส่วนมูลค่าความเสียหายอยู่ที่ประมาณ 3.5 ล้านบาท

 

สาเหตุเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เพราะขณะเกิดเหตุไม่มีผู้ใดอยู่ที่บริเวณที่เกิดเหตุ เพราะแพได้ปิดบริการ ตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ของผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี แต่อย่างไรก็ตามจะต้องรอให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจมาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง