ผวจ.นราธิวาส ห่วงลักลอบเข้าเมืองทำโควิด-19 ระบาดเพิ่ม อาจจำเป็นต้องล็อคดาวน์ 3 อำเภอชายแดน
21 ม.ค. 2564, 13:58
เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2564 นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมคณะลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ตามแนวชายแดนที่อำเภอสุไหงโก-ลก พร้อมตรวจเยี่ยม พบปะ และให้กำลังใจกำลังพล ที่ ต.มูโนะ อำเภอสุไหงโก-ลก และเป็นประธานการประชุมเพื่อติดตามสถานการณ์พร้อมมอบนโยบาย และกำหนดมาตรการควบคุมและป้องกันตามแนวชายแดนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยมีนายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงโก -ลก กำลัง 3 ฝ่าย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
โดยมีประเด็นสำคัญที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสเน้นย้ำ คือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเข้มงวดในการปฏิบัติหน้าที่อย่างสุดกำลัง ทำให้การลักลอบเข้าเมืองทำได้ยากที่สุด ให้น้อยที่สุด และทำไม่ได้เลย เพื่อให้การควบคุมบุคคลที่ลักลอบเข้ามาอยู่ในวงจำกัดที่สุด เพราะแนวโน้มสถานการณ์ในขณะนี้พบว่าผู้ที่ลักลอบเข้ามาทั้งคนไทย และคนต่างสัญชาติจะมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เข้ามาด้วยจึงต้องควบคุมป้องกัน และสกัดกั้นตั้งแต่ต้นทาง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เครือข่ายทุกภาคส่วนต้องช่วยกันตรวจตราสอดส่องพื้นที่ และแจ้งเบาะแสทันทีที่พบเห็นบุคคลลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย อีกทั้งหากพบเจ้าหน้าที่รัฐคนใดเรียกรับผลประโยชน์ หรือเข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบนำบุคคลจากประเทศมาเลเซียเข้ามาอย่างผิดกฎหมายจะดำเนินการลงโทษอย่างหนักทันที
ซึ่งนับจากนี้จะติดตามประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดโดยหากภายใน 2-3 สัปดาห์นี้ ยังไม่สามารถหยุดการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย หรือ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เข้ามาจากบุคคลที่ลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายเพิ่มมากขึ้น ก็จะนำปัญหานี้เข้าสู่ที่ประชุมEOCจังหวัดนราธิวาส เพื่อกำหนดแนวทางการล็อคดาวน์ และปิดช่องทางเข้าออกของ 3 อำเภอชายแดน คือ อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอตากใบ และ อำเภอแว้ง แล้วนำเสนอต่อศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.)พิจารณาทันที เพื่อหยุดการเคลื่อนย้ายของกลุ่มเสี่ยงที่อาจจะนำเชื้อไปแพร่ระบาดในพื้นที่จังหวัดอื่น ๆ ต่อไป