"อาจารย์ ว.พยาบาล" ป่วยซึมเศร้า ! เขียนจดหมายสั่งเสีย ก่อนคิดสั้นแขวนกระดูกแม่ห้อยคอ ดับคาห้องแลป
22 ม.ค. 2564, 08:14
วันที่ 21 มกราคม 2564 เวลา 18.30 น. พ.ต.ท.กฤษดา สุพรรณกูล สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครพนม รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่า มีคนผูกคอตายในบริเวณวิวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครพนม มหาวิทยาลัยนครพนม ถนนประชาสุขสันต์ ชุมชนหนองบึกทุ่ง เขตเทศบาลเมืองนครพนม จึงประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลนครพนม เจ้าหน้าที่กู้ภัยศรีสัตต และ นางสาวเกตุแก้ว พรมลา ประธานชุมชนหนองบึกทุ่ง เดินทางไปยังที่เกิดเหตุซึ่งเป็นอาคาร 6 ชั้น ที่พบศพอยู่ในห้องแลปปฏิบัติการ ชั้น 3 พบศพผู้ตายเป็นชายทราบว่าชื่อนายโกมล บุญแก้ว อายุ 44 ปี อาจารย์ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ นอนหงายอยู่บนพื้นตรงหน้าห้องทำงาน โดยมีเสื้อกาวปฏิบัติงานและเสื้อสูทของผู้ตายคลุมร่างไว้ ใกล้ๆศพพบนายมั่ง บุญแก้ว อายุ 68 ปี พ่อของตายนั่งร่ำไห้สะอึกสะอื้น ปากพร่ำว่าลูกทิ้งพ่อไปทำไมๆ
จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ตายไม่มีครอบครัวอยู่กับพ่อสองคน ส่วนแม่เสียชีวิตแล้วประมาณปีเศษ เป็นคนที่ชอบเก็บตัวเงียบ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร เวลามาทำงานจะถือถุงผ้าพะรุงพะรัง ภายในจะมีทั้งปิ่นโตข้าว อุปกรณ์การเรียนการสอน และยารักษาโรค
ก่อนเกิดเหตุนายโกมลก็มาทำงานตามปกติ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียด เวลาประมาณ 09.00 น. ได้ไล่นางหวานตา บัวเคน เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการออกจากห้อง พร้อมกับบอกว่าอย่ามารบกวน ก่อนจะปิดประตูล็อกห้อง กระทั่งเวลาล่วงเลยมาถึง 18.00 น. นายมั่งผู้เป็นพ่อก็ขับรถจักรยานยนต์มารับลูกชาย สอบถามนางหวานตาว่าวันนี้มีงานยุ่งเหรอถึงกลับกันค่ำ นางหวานตาถึงกับตกใจเพราะคิดว่าอาจารย์โกมลกลับบ้านแล้ว จึงพากันไปที่ห้องแลปดังกล่าว เคาะประตูอย่างไรก็ไม่เสียงตอบ นางหวานตาจึงปีนออกไปทางระเบียงตึกเลาะไปเปิดหน้าต่างห้องแลป มองดูภายในไม่พบใคร แต่เมื่อเดินไปเปิดประตูห้องทำงานของอาจารย์โกมล ดันประตูอย่างไรก็เปิดไม่ออก จึงไปเรียก อาจารย์อภิสิทธิ์ ฉกรรจ์ศิลป์ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ รองคณบดีวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครพนมมาช่วยผลัก ปรากฏว่าพบร่างของนายโกมลแขวนอยู่ที่ขอบประตูด้านบน โดยใช้ผ้าพันคอสีน้ำเงินรัดคอตัวเอง จึงนำร่างลงมาช่วยกันปั๊มหัวใจ ก่อนจะโทรศัพท์แจ้งศูนย์วิทยุ 191 ดังกล่าว
จากคำให้การของเพื่อนร่วมงาน พนักงานสอบสวนทราบว่าอาจารย์โกมลได้ไปเรียนต่อระดับปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่(มช.) แต่น่าเสียดายสอบไม่ผ่านเกณฑ์ ทางวิทยาลัยฯจึงเรียกตัวมาสอนลูกศิษย์ตามเดิม ประกอบกับระหว่างเรียนอยู่ที่เชียงใหม่นายโกมลมีอาการเครียด จึงไปรับยาคลายเครียดที่โรงพยาบาลสวนปรุง นอกจากนี้เมื่อกลับมาสอนอยู่ที่วิทยาลัยพยาบาลฯ ก็มีโรคเก๊าท์และหอบหืดตามมาอีก โดยรับยาอยู่ที่โรงพยาบาลนครพนม ประกอบกับคุณแม่เสียชีวิตลงทำให้มีความเครียดสะสมเรื่อยมา ก่อนจะตัดสินใจอัตวิบากจบชีวิตลง ท่ามกลางความเสียใจของผู้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงาน และลูกศิษย์
ระหว่างชันสูตรพลิกศพในคอผู้ตายคล้องกระเป๋าพลาสติก เมื่อเปิดดูพบจดหมายเขียนด้วยลายมือตนเอง มีข้อความว่า “กระดูกของแม่ขอความกรุณให้เผาไปพร้อมกับข้าพเจ้า” และมีกระดูกของแม่อยู่ภายในกระเป๋านั้นด้วย นอกจากนี้ยังพบกระปุกสีขาวบรรจุสารเคมีชนิดหนึ่ง ที่ในวิทยาลัยพยาบาลฯไม่เคยใช้อยู่ในถุงผ้าด้วย จึงสันนิษฐานเบื้องต้นไว้ว่านายโกมลมีอาการซึมเศร้า จากปัญหาที่เรียนระดับปริญญาเอกไม่จบ ประกอบกับแม่มาเสียชีวิต จึงเดินมาสู่ทางตันหาทางออกไม่เจอ จึงวางแผนอัตวินิบาตกรรมด้วยการนำสารเคมีที่แพทย์ระบุว่าดื่มเพียงไม่กี่ซีซีหัวใจก็หยุดเต้น แต่คงครุ่นคิดอยู่นานก่อนจะหันมาใช้ผ้าพันคอผูกกับขอบประตูห้องทำงานฆ่าตัวตาย แพทย์สันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาแล้วบวกลบไม่เกิน 4 ชั่วโมง ซึ่งนายมั่งไม่ติดใจในสาเหตุการตาย พนักงานสอบสวนจึงมอบศพนำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป