นายกฯ ขอนักการเมืองระมัดระวังแสดงความเห็นเรื่องวัคซีนโควิด-19 หวั่นกระทบไทม์ไลน์
25 ม.ค. 2564, 15:03
วันที่ 25 ม.ค. 2564 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงถึงกรณีที่ให้หน่วยงานที่เกี่ยวไปดำเนินคดี มาตรา 112 กับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ที่ออกวิพากษ์วิจารณ์วัคซีนโควิด-19 ว่าที่ผ่านมาได้ให้โอกาส เพราะไม่ต้องการใช้กฏหมายไปปิดปากหรือไปทำร้ายใคร แต่อยากให้พิจารณาว่าการกระทำของนายธนาธรว่าทำซ้ำกี่ครั้งแล้ว และไม่เพียงแต่นายธนาธนเท่านั้น แต่รวมไปถึงคดีของกลุ่มนักศึกษาที่กระทำผิดซ้ำต่างกรรมต่างวาระ พร้อมระบุว่า ไม่อยากให้นำเรื่องนี้ไปเป็นเรื่องของการเมืองจะผิดหรือถูกก็ให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม พร้อมย้ำว่าไม่ได้เลือกปฏิบัติในการดำเนินคดีมาตรา 112 แต่การกระทำของนายธนาธรเข้าข่ายตามมาตรา 112 และ 116 และความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ซึ่งจะต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด ดังนั้นอย่าไปให้ความสำคัญกับคนเหล่านี้มากหนักและหากคิดว่าไม่ได้กระทำความผิดก็ให้ไปต่อสู่ตามขั้นตอนของกฏหมาย
นายกรัฐมนตรี ยังขอให้นักการเมืองระมัดระวังการแสดงความเห็นเรื่องวัคซีนและอย่านำเรื่องวัคซีนมาเกี่ยวพันกับเรื่องการเมือง เพราะขณะนี้การเจรจาตกลงกับบริษัทที่ผลิตวัคชีนก็เดินหน้าไปได้ด้วยดี หากยังคงมีการโจมตีกันไปมาอยู่ ก็จะเกิดความหวาดระแวง เพราะหากเกิดปัญหาแล้วจะส่งผลกระทบต่อคนทั้งประเทศในการที่จะได้รับการฉีดวัคชีนตามไทม์ไลน์ที่บริษัทกำหนดและหากเกิดความเสียหายทุกคนที่ออกมาวิพากวิจารณ์ก็ต้องออกมารับผิดชอบด้วย
ส่วนการที่นายธนาธร เรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเอกสารที่บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ทำกับบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า และพร้อมจะขอโทษหากเข้าใจผิดนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเองพร้อมจะชี้แจงเรื่องดังกล่าวในสภาฯ และมั่นใจว่าไม่ได้ทำผิดใดๆ
ส่วนกรณีฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอีก 10 คน โดยยืนยันพร้อมไปชี้แจงและยอมรับกระบวนการตรวจสอบในสภาฯ
ฝ่ายค้านเตรียมจะตรวจสอบการจัดทำงบประมาณในส่วนของกองทัพนั้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็พร้อมชี้แจ้งตามเหตุผลและความจำเป็น ซึ่งมีการปฏิบัติตามขั้นตอนและมีการจัดทำงบตามแผนยุทธศาสตร์ดูแลทั้งทางบก ทางทะเลและทางอากาศระหว่างไทยกับกลุ่มประเทศอาเซียนและประเทศต่างๆ