เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



วุ่นทั้งเมือง ! สาวกดเงิน "ตู้เอทีเอ็ม" ขัดข้องธนบัตรไม่ออก แต่กลับถูกหักยอดจากบัญชี


2 ส.ค. 2562, 08:03



วุ่นทั้งเมือง ! สาวกดเงิน "ตู้เอทีเอ็ม" ขัดข้องธนบัตรไม่ออก แต่กลับถูกหักยอดจากบัญชี




เมื่อเวลา 10:50 น วันที่ 1 สิงหาคม 2562 ผู้สื่อข่าว ONbnews รายงานว่า ศูนย์วิทยุ 191 สภ. เมืองสุราษฎร์ธานีรับแจ้งเหตุชิงทรัพย์ขณะผู้เสียหายกดเงินจากตู้เอทีเอ็ม ที่เกิดเหตุ ริมถนนตลาดล่าง เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี จากนั้น ร.ต.อ.คชา อินทรรักษ์ ร้อยเวรป้องกันปราบปราม และ ร.ต.อ.สิทธิศักดิ์ ยศเมฆ รอง สว.สส นำกำลังไปตรวจสอบ พร้อมชุดสืบสวน

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบกับนางสาววารี ทองแก้วแคล้ว อายุ 38 ปี ชาว อ.บางเลน จ.นครปฐม และ นางประไพพักตร์ นาคกุล อายุ 44 ปี ชาว อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี ยืนรอเจ้าหน้าที่ ด้วยอาการตื่นตระหนก สอบถามเบื้องต้นทราบว่า ก่อเกิดเหตุ นางประไพพักตร์ ได้เป็นผู้ขับรถยนต์ พาน.ส.วารี น้องสะไภ้ ไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็มดังกล่าว จำนวน 1,000 บาทโดย น.ส.วารี ระบุว่า ขณะที่ได้ยินเสียงตู้จ่ายเงินออกมา แต่ได้มีผู้ชายเดินเข้ามาจากด้านหลังแล้วหยิบเงินจากช่องจ่ายเงินไปโดยอ้างว่าเป็นเงินที่เขากดไปก่อนหน้านี้จำนวน 2,000 บาท จากนั้นได้เดินออกไปขึ้นรถยนต์กระบะ ที่จอดติดเครื่องรออยู่ริมถนนทันที สร้างความงุนงงให้กับตนเป็นอย่างมาก และเมื่อสอบถามนางประไพพักตร์ เจ้าของบัญชีก็ได้รับข้อความว่าเงินจำนวน 1,000 บาท ได้ถูกถอนออกไปจากบัญชีแล้ว

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า ผู้ต้องสงสัยเป็นชายวัยกลางคน แต่งกายคล้ายชุดพนักงานบริษัท เป็นผู้เดินมาหยิบเงินจากช่องจ่ายเงินไป อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบกล้องย้อนหลังพบว่าชายต้องสงสัยคนดังกล่าว ได้เข้ามาใช้บริการที่ตู้เอทีเอ็ม ก่อนหน้า น.ส.วารผู้เสียหายจริง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้เร่งติดตามตัวชายต้องสงสัยคนดังกล่าวมาสอบสวนปากคำต่อไป

ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบสวนจนทราบว่าชายดังกล่าวคือ นายสมนึก คอนเขา อายุ ๔๔ ปี ที่อยู่ ๔๐/๑ ม.๔ ต.บอน้ำร้อน อ.กันตัง จ.ตรัง จึงได้เชิญตัวมาเพื่อเจรจา โดยนายสมนนึกฯ กล่าวว่าได้ไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มดังกล่าว โดยกดถอนเงินจำนวน 2,000 บาท และเมื่อทำรายการเสร็จ ยังไม่เห็นเงินออกมา แต่เครื่องคืนบัตรออกมาจึงหยิบบัตรแล้วเดินออกไปขึ้นรถ โดยคิดว่าเครื่องขัดข้องเงินไม่ออก จึงได้เปลี่ยนไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม อีกที่ ๆ อยู่ใกล้กัน แต่เมื่อทำรายการ หน้าจอแสดงผลเงินหายไป 2,000 บาท นายสมนึกฯ จึงได้กลับมาที่ตู้เอทีเอ็มเดิม ที่น.ส.วารี กำลังทำรายการอยู่ปรากฏว่ามีเงินในช่องรับเงิน จำนวน 2,000 บาท นายสมนึกจึงไปหยิบเงินออกมา และขึ้นรถยนต์กลับไปทานข้าว

ด้านน.ส.วารี ซึ่งขณะทำการรายอยู่ มีข้อความแจ้งนางประไพพักตร์ เจ้าของบัญชี ที่นั่งรออยู่ในรถว่ามีเงินในบัญชีถูกเบิกไปแล้ว 1,000 คงเหลือ 20 บาท น.ส.วารี จึงบอก นางประไพพักตร์ ว่าเงินออกจากบัญชีแล้ว มีคนหยิบเอาไปแล้ว หลังจากนั้นจึงได้โทรศัพท์ แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและจากการเจรจากัน นางประไพพักตร์ เจ้าของบัญชี จึงไปตรวจสอบไปยังธนาคารว่ามีเงินออกจากบัญชีหรือไม่หรือมีปัญหาขัดข้องอย่างไร กลับพบว่าระบบบัญชีเกิดการผิดพลาดจากบัตรเอทีเอ็ม และเงินในบัญชียังอยู่เท่าเดิม ไม่ได้มีการถอนเงินออกจากบัญชีแต่อย่าง และข้อความที่ส่งแจ้งไปนั้นเกิดผิดพลาด และเมื่อคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย ได้ทราบความจริงดังกล่าว ว่าเกิดจากความผิดพลาดของตู้จึงไม่ติดใจที่จะดำเนินคดีหรือเรียกร้องค่าเสียหายใดทั้งสิ้น









Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.