เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ครูหนุ่มวัย 33 ที่กุเรื่องร่อนทองได้ในคลองชลประทาน ไม่ยอมเข้าพบนายอำเภอ แถมปั่นเรื่องโกงเงินซ้ำ


28 ม.ค. 2564, 19:20



ครูหนุ่มวัย 33 ที่กุเรื่องร่อนทองได้ในคลองชลประทาน  ไม่ยอมเข้าพบนายอำเภอ แถมปั่นเรื่องโกงเงินซ้ำ




 จากกรณี ครูหนุ่ม หรือ หรือ นายกรภัทร พรของแม่ อายุ 33 ปี กุเรื่องว่าร่อนทองได้ในคลองชลประทาน หมู่ 4 อ.เมืองราชบุรี สร้างความแตกตื่น จนทำให้ชาวบ้านจากจังหวัดราชบุรี และจังหวัดใกล้เคียง ต่างพาอุปกรณ์มาร่อนทองกันเป็นจำนวนมากและหลังจากนั้นยอมรับกุเรื่องพร้อมรับเป็นการจัดฉากสร้างกระแสอยากดังข้ามคืนดังมีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันนี้ เมื่อเวลา 12.00 น. ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่อำเภอเมืองราชบุรี นายกรภัทร พรของแม่ อายุ 33 ปี หรือครูหนุ่ม ได้เตรียมเดินทางมาเข้าพบนายทศพล เผื่อนอุดม นายอำเภอเมืองราชบุรี เช้าวันนี้แต่ก็ยังไม่มาตามนัด ก่อนจะติดต่อประสานไปยังนายกรภัทร หรือ ครูหนุ่ม โดยแจ้งกลับมาว่าตอนนี้ตนรู้สึกเครียดมาก อยากฆ่าตัวตาย เพราะเจอกระแสต่อต้านจากสังคมเยอะ  และอยากจะขอโทษชาวราชบุรีทุกคนด้วยที่พูดไปแบบนั้น เนื่องจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์  ตอนนี้ขอพักผ่อนสมอง ที่จังหวัดเพชรบุรีก่อน และยังไม่พร้อมเจอหน้าใคร และต้องขอโทษนายอำเภอราชบุรี ที่ตนไม่ได้เดินทางไปพบตามนัดหมายเช้าวันนี้ (28 ม.ค) หลักจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลยโดยมี พ.ต.ท.รัฐศักดิ์ อิ่มฤทธา รอง ผกก.ป. สภ.เมืองราชบุรี พร้อมด้วยนายจำนงค์ จันทวงศ์ปลัดอำเภอเมืองราชบุรีเตรียมเข้ารับฟังการชี้แจงจากนายนายกรภัทร หรือครูหนุ่ม

ขณะที่นายทศพล เผื่อนอุดม นายอำเภอเมืองราชบุรี เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้รับฟังคำสารภาพ จากครู่หนุ่มแล้ว ว่าลงไปหาปลาไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมดเป็นการกุข่าวขึ้นมา มีจริงบ้างเท็จบ้าง เป็นความคึกคะนอง เรื่องที่บอกว่าเป็นทองรูปพรรณที่เป็นจี้กระต่ายนั้นอันนี้เป็นเรื่องจริงเขาบอกว่าพบจริง แต่ยังไงแล้วต้องเป็นหน้าที่ตำรวจที่จะสอบสวนข้อเท็จจริงว่าคืออะไรแต่เขายืนยันว่าตัวที่เขาพบจี้กระต่ายนั้นจริงแต่หลังจากนั้นก็โพสต์เอาสนุกใน Facebook ของเขาให้คนสนใจและเห็นคนมากดไลค์กันก็เลยกลายเป็นเป็นเรื่องเป็นประเด็นขึ้นมาประกอบกับมีผู้สื่อข่าวให้ความสนใจจนเป็นเรื่องราวขึ้นมาใหญ่โตจนบานปลาย พร้อมกับยังพูดถึงนักข่าวที่อยู่เบื้องหลังท่านหนึ่งต้องเป็นหน้าที่ที่ต้องไปให้คำตอบกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพนักงานสอบสวนอีก ว่าเรื่องจริงเรื่องเท็จเป็นมาอย่างไร และประกอบความผิดอะไรหรือไม่ แต่ต้องดูรายละเอียดองค์ประกอบว่าเข้าข่ายความผิดอื่นๆ ไหม เบื้องต้นการเอาผิดครูหนุ่มนั้น ต้องดูว่าสามารถดำเนินคดีในเรื่องไหน แต่เป็นความผิดต่อรัฐเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถดำเนินการได้ ต้องดูรายละเอียดอื่นควบคู่ไปด้วยว่าหน่วยงานรัฐหน่วยงานใดโดยเฉพาะคลองชลประทานมีอะไรเสียหายไหมผู้ที่รับผิดชอบพื้นที่ในพื้นที่พื้นที่มีอะไรเสียหายไหมพร้อมทั้งประสานไปยังพื้นที่ที่รับผิดชอบคลองดังกล่าว ทั้ง อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตรวจสอบความเสียหายให้รวบรวมมาร้องทุกข์กล่าวโทษไปตามขั้นตอน ส่วนผู้ที่ถูกกล่าวหาถูกพาดพิงก็ต้องมาชี้แจงแสดงพยานหลักฐานว่าไปตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม



ขณะที่ พ.ต.ท.รัฐศักดิ์ อิ่มฤทธา รอง ผกก.ป. สภ.เมืองราชบุรี กล่าวว่า เบื้องต้นได้ประสานติดต่อเจ้าตัวอยู่ ทราบว่าหลบไปพักในพื้นที่เงียบ แจ้งว่าตอนนี้ระแวงกลัวถูกทำร้าย รู้สึกเครียดมาก อยากฆ่าตัวตาย เพราะเจอกระแสต่อต้านจากสังคมเยอะ  ตอนนี้ขอพักผ่อนสมองก่อน และยังไม่พร้อมเจอหน้าใคร พร้อมเตรียมประสานเชิญมาสอบปากคำกับพนักงานสอบสวนต่อไป ส่วนการเข้าข่ายความผิด นั้น เบื้องต้นที่ไปโพสต์ในเฟส อาจจะเป็นเรื่องการกระทำผิดในเรื่องของ พรบ.คอมพิวเตอร์  เข้าเครื่องอันเป็นเท็จ สร้างความตกใจให้กับประชาชน ส่วนในเรื่องอื่นๆ ถ้ามีหน่วยงานใดที่ได้รับความเสียหายก็จะดำเนินการเพิ่มเติมต่อไป ซึ่งอยู่ระหว่างรอให้ นายกรภัทร มีสภาพจิตใจที่ดีขึ้นก่อน เพราะทราบมาว่าเคย ป่วยโรคจิต ซึมเศร้า หากหายดีแล้วจะเรียกมาสอบสวน เอาผิดฐานนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ /ส่วนเรื่องความผิดอื่น ต้องดูองค์ประกอบความผิดอย่างละเอียดอีกครั้ง

หลังจากนั้น นายสมเกียรติ  เฉลิมดิษฐ์ อายุ 62 ปี เป็นลุงของนายกรภัทร หรือ ครูหนุ่ม ได้เดินทางมาเข้าพบพูดคุยกับนายทศพล เผื่อนอุดม นายอำเภอเมืองราชบุรี เปิดเผยพฤติกรรมการนิสัยของนายกรภัทร หรือ ครูหนุ่ม เป็นคนชอบแกล้งคนชอบสร้างเรื่อง ตั้งแต่เล็กๆ เคยทำของในบ้านหลายอย่างพัง ทั้งวิทยุเอากราวไปหยอดปุ่มเปิดเสียง เอานาฬิกามาสลับเข็มเดิน รวมทั้งยังไปสอยมะพร้าวที่บ้านในสวนจนหมดต้นทั้งลูกอ่อนลูกแก่ เพราะตนเองจะรู้นิสัยดีว่าเป็นเด็กยังไงชอบหาเรื่องเดือดร้อมมาให้ น้องอาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ตามประสานเด็กๆ ป่วยทางจิตละยังไม่ปกติ  โดยแม่ของน้องเองก็ยินดีขอโทษประชาชนพร้อมยอมรับผิดชอบเพราะลูกเป็นแบบนี้ตั้งแต่เล็ก ซึ่งวันนี้แม่ของนายนายกรภัทร หรือ ครูหนุ่ม ได้ให้ลุงเป็นตัวแทนเนื่องจากแม่ทำงานต่างจังหวัดหากกลับมาก็ต้องก๊กตัว 14 วัน เลยให้คุณลุงดำเนินการให้ กล่าวขอโทษชาวราชบุรี ทุกคนที่แห่กันไปร่อนทอง รวมทั้งขอโทษส่วนราชการทุกส่วนที่ทำให้เดือดร้อน ทั้งหมดที่เกิดขึ้นไม่ได้มีเจตนาหลอกลวงใคร เกิดจากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ของเด็กที่ป่วยทางจิตละยังไม่ปกติ  ซึ่งตอนนี้ตนเองก็ยังไม่สามารถติดต่อ นายกรภัทร หรือ ครูหนุ่ม ได้ทั้งมือถือและทางไลน์ แต่หากติดต่อได้ทำพูดคุยให้เข้ามาพบกับนายอำเภอทันที


ขณะเดียวกัน ทางเพจ ตาเป้  ผู้สื่อข่าว  ที่ถูก นายกรภัทร พรของแม่ หรือครูหนุ่ม กล่าวหาว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังของการกุเรื่อง ว่าเจอทองในคลองชลประทานดอนแจงจังหวัดราชบุรี จนทำให้ชาวบ้านจำนวนมากแห่กันไปร่อนทอง และยังถูกกล่าวหาว่าเป็นคนโกงค่าตัวจำนวน 1 หมื่นบาท หลังจากไปออกรายการทีวีช่องหนึ่ง เจ้าตัวได้ออกมาชี้แจงกับทางทีมข่าวว่า เรื่องราวทั้งหมด ไม่เป็นความจริง โดยหลังที่เขาเองได้รับคำสั่งจากต้นสังกัดให้ลงพื้นที่ติดตามข่าวที่ นายกรภัทร หรือครูหนุ่ม ได้โพสต์ลงเฟซบุ๊คส่วนตัว เขาจึงเป็นคนทักเจ้าไปในแชทส่วนตัวไปเมื่อวันที่ 23 มกราคม เพื่อติดต่อขอสัมภาษณ์ (แต่ครูหนุ่มกล่าวหาว่าเขาทักไปเมื่อวันที่ 15 มกราคม)  ซึ่งพอหลังจากที่ทักไปแล้ว ก็ได้ลงพื้นที่ ณ จุดร่อนทอง พร้อมสัมภาษณ์ครูหนุ่มแล้วนำเสนอข่าวไปตามปกติ  โดยไม่ได้มีการยุยง หรือบังคับให้ครูหนุ่มสร้างเรื่องราวว่ามีคนขับสิบล้อมาบอกแต่อย่างใด ต่อมาในวันที่ 25 มกราคม ระหว่างที่ลงพื้นที่ตรงจุดร่อนทอง มีรายการทีวีช่องหนึ่ง ติดต่อมาทางเขา ให้พาครูหนุ่มไปออกรายการ แต่ทางรายการไม่มีรถรับส่ง เลยให้เขาเป็นคนรับส่งพาไปออกรายการ โดยพานักร่อนทองชาวโคราชไปด้วยอีก 2 คน รวมกันเป็น 4 คน ซึ่งพอไปถึงสถานนี ก็ได้ร่วมรายการตามปกติ โดยไม่มีการเขียนสคริปต์ใดๆ เกิดขึ้น หลังจากจบรายการ ทางรายการได้โอนเงินให้เขาเป็นเงินจำนวน 3 พันบาท เป็นค่ายานพาหนะ และโอนให้กับครูหนุ่ม จำนวน 2,425 บาท เป็นเงินค่าตัว (ตามเดิมคือ 2500 บาท หักภาษีไป 75 บาท เหลือเงิน 2,425 ) ซึ่งทางรายการได้โอนให้ทางครูหนุ่มโดยตรง ไม่ได้ผ่านบัญชีเขาตามที่ครูหนุ่มกล่าวอ้าง เพราะฉะนั้นสิ่งที่ครูหนุ่มกล่าวหาว่าเขาโกงเงินค่าตัว 1 หมื่นบาท จึงไม่เป็นความจริง

 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.