"ผู้ต้องขังยาเสพติด" จุดไฟเผารถตำรวจ มุดลงท่อระบายน้ำหลบหนี จ่อดำเนินคดีอาญาเพิ่ม
29 ม.ค. 2564, 19:51
วันนี้ (29 ม.ค.64) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานความคืบหน้ากรณีผู้ต้องขังคดียาเสพติดมีแผนสูงโดยวางแผนจุดไฟเผาตู้แอร์รถตราโล่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ใช้ควบคุมผู้ต้องขังของ สภ.หนองแสง หมายเลขทะเบียน ทะเบียน ฮฐ 2946 กรุงเทพมหานคร ขณะจะนำตัวไปส่งฝากขังยังศาล จ.อุดรธานี แต่พอจะถึงศาล จ.อุดรธานี เพียงอีก 9 กม. นายสมสมัย ไปพเนา อายุ 46 ปี ผู้ต้องหาที่ถูกจับในข้อหาครอบครองยาบ้า 68 เม็ด และไอซ์ 3.37 กรัมและหนึ่งในผู้ต้องหาที่มาด้วยกัน 4 คน ได้วางแผนใช้ไฟแช็คจุดเผาตู้แอร์จนเกิดไฟไหม้ จนต้องร้องขอให้ ร.ต.ต.มนตรี สาระพันธ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.หนองแสง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นพลขับช่วยมาเปิดประตูให้แล้วอาศัยจังหวะชุลมุนวิ่งหลบหนีมุดลงในท่อระบายน้ำเสียซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กม. แต่ก็ไม่พ้นการไล่ล่าติดตามของเจ้าหน้าที่ ตร.สภ.เมืองอุดรธานีกองสืบสวนภูธร จ.อุดรธานี ที่ระดมกำลังกันกว่า 50 นาย จับกุมตัวได้ในที่สุด เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลา 13.30 น. ถนนมิตรภาพหมายเลข 2 ขาเข้าตัวจังหวัดอุดรธานี บริเวณสามแยกทางเข้าวัดป่าบ้านตาด ท่ามกลางความระทึกของผู้ใช้รถใช้ถนนที่สัญจรผ่านไปมาไม่เคยเห็นรถ ตร. ถูกไฟไหม้
ต่อมาเวลา 17.00 น. พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พร้อมด้วย ตร. พิสูจน์หลักฐานได้ตรวจสอบรถตราโล่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ถูกผู้ต้องหาลอบเผาเพื่อหลบหนี โดย ตร. ได้นำรถตราโล่ที่เป็นควบคุมผู้ต้องขังและยังไม่ถูกไฟไหม้มาเปรียบเทียบและตรวจสอบการจุดไฟเผาตรงไหนได้บ้างเพื่อประกอบและหาหลักฐานเพิ่มเติม จากนั้น พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า เรื่องนี้ ตร. ได้รับแจ้งเวลาประมาณ 13.30 น. ว่ารถขนผู้ต้องหาของ สภ.หนองแสง ซึ่งขณะเดินทางเข้ามาฝากขังเรือนจำ จ.อุดรธานี ใช้ถนนมิตรภาพขาเข้าก่อนถึงเรือนจำประมาณ 9 กิโลเมตร และใกล้กับทางเข้าวัดป่าบ้านตาด ก็ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นในขณะที่เรารับแจ้งก็รับแจ้งเพิ่มเติมว่า ภายในรถมีผู้ต้องหา 4 คน 1 ใน 4 ได้มีการหลบหนีออกจากรถไป จึงได้มีการระดมเจ้าหน้าที่ ตร.สภ.เมืองอุดรธานี และกองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดอุดรธานีออกติดตามในส่วนของสถานที่วิ่งหลบหนีไปใช้เวลาประมาณชั่วโมงเศษก็สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ เราสอบถามผู้ต้องหาอีก 3 คน ซึ่งตอนนี้ต้องถือว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ตอนนี้ถือว่าเป็นพยาน ทั้ง 3 คน ยืนยันชัดเจนว่าเหตุเพลิงไหม้เกิดจาก นายสมสมัย ผู้ต้องหาคนที่ได้หลบหนีไปเผาบริเวณช่องแอร์เพื่อให้เกิดไฟไหม้ขึ้นมา บางคนก็หลับอยู่แต่ต้องตื่นขึ้นมาเพราะได้กลิ่นควันไฟไหม้ และตำรวจที่ทำหน้าที่พลขับและควบคุมผู้ต้องหามาเมื่อเห็นไฟไหม้รถจึงจอดข้างทาง และเปิดประตูตู้คุมขังให้ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ออกมา แต่ขณะเดียวกันนั่นเอง ผู้ต้องหาที่หลบหนีการจับกุมบอก ตร. ว่าเจ็บข้อมือ เขาก็ไขกุญแจให้ เขาก็ใช้ช่วงชุลมุนที่ไฟไหม้รถ ตร. แล้ววิ่งหลบหนีไปทันที โดยเราได้ประสาน ตร. พิสูจน์หลักฐานร่วมสืบค้นข้อมูลค้นหาความจริงให้กับเราอีกส่วนหนึ่งโดยตรวจหลักฐานในรถที่ถูกไฟไหม้ให้ละเอียด
"ตอนนี้เราจะดำเนินคดีอาญากับผู้ต้องหาที่เผารถตราโล่ในข้อหาวางเพลิงเผาทรัพย์ นอกเหนือจากคดีที่โดนข้อหายาเสพติด ส่วนจะมีใครร่วมวางแผนเพื่อการหลบหนีหรือมีใครมารอรับเพื่อการหลบหนีหรือไม่นั้น ตร. ก็จะสืบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป สำหรับผู้ต้องหาที่หลบหนีรายนี้ทางศาล จ.อุดรธานี มีการออกหมายขังแล้วก็มีการปรับทางออนไลน์โดยระบบ Conference และอยู่ในระหว่างการที่นำตัวมาส่งเรือนจำแต่เขาได้ก่อเหตุดังกล่าวขึ้นอีก ก็จะต้องนำตัวไปเข้าเรือนจำก่อนและหลังจากนั้น ตร. ถึงจะแจ้งข้อกล่าวหาในเรือนจำเขาอีกครั้งหนึ่ง" ผู้การกล่าวตอนท้าย