6 หญิงไทยร้องผู้การ ปคม. ถูกลวงค้าประเวณี หลังตกงานช่วงโควิด-19
2 ก.พ. 2564, 09:11
6 สาวไทยร้อง ปคม.ถูกหลอกไปค้ากามที่บาห์เรน เปิดเผยเมื่อช่วงสายวันที่ 1 ก.พ. ที่กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. เขตสายไหม พา 6 หญิงสาวชาวไทยที่ถูกนายจ้างหลอกไปค้าประเวณีที่ประเทศบาห์เรน เข้าร้องทุกข์ พล.ต.ต.สยาม บุญสม ผบก.ปคม. ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้กระทำผิด น.อ.อนุดิษฐ์กล่าวว่า มีผู้เสียหายติดต่อผ่านญาติที่อยู่ในเขตสายไหมว่า ถูกหลอกไปค้าประเวณีที่ประเทศบาห์เรน ตั้งแต่ปลายปี 63 รวมระยะเวลาราว 2 เดือนเศษ ได้ประสานตำรวจและ กต.ช่วยเหลือเหยื่อได้ทั้งหมด ก่อนพามาร้องทุกข์กับตำรวจ บก.ปคม.
น.ส.กุล (นามสมมติ) 1 ในเหยื่อค้ากามกล่าวว่า ช่วงโควิดระบาดไม่มีงานทำ ไม่มีรายได้เลี้ยงดูครอบครัว เห็นข้อความรับสมัครพนักงานทำงานร้านนวดไทย ที่ประเทศบาห์เรน ระบุรายได้เดือนละเกือบ 100,000 บาท เกิดความสนใจติดต่อกับนายหน้าผ่านแชตไลน์ นายหน้าแจ้งว่าไม่มีการค้าประเวณี หลงเชื่อตกลงไปทำงาน โดยนายหน้าแจ้งว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะหักจากเงินเดือนที่ได้รับด้วยการผ่อนชำระเป็นงวดๆ แต่เมื่อไปถึงมีนายหน้าชาวบาห์เรนมารับที่สนามบินก่อนถูกยึดพาสปอร์ต บังคับให้ค้าประเวณี หากไม่ทำจะถูกทุบตีทรมาน และต้องเสียเงินคืน 130,000 บาท บางวันต้องรับลูกค้านับ 10 ราย โดยไม่ได้รับเงินจนต้องจำใจทำ กระทั่งสบโอกาสนัดกับเหยื่ออีก 2 คน พากันหลบหนีไปติดต่อสถานทูตและช่วยเหลือออกมาได้อีก 3 คน
พล.ต.ต.สยามกล่าวว่า คดีนี้ได้รับการประสานจากกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ว่ามีการช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์รายหนึ่ง ที่หนีมาจากประเทศบาห์เรน หลังหางานร้านนวดแผนโบราณจากเฟซบุ๊กให้ไปทำงานในประเทศบาห์เรน โดยมีนายหน้าชาวไทยโน้มน้าวว่าจะออกค่าตั๋วเครื่องบินให้ มีค่าจ้างสูง อ้างว่าไม่มีการค้าประเวณี แต่เมื่อไปถึงกลับถูกบังคับข่มขู่ให้ค้าประเวณี ถูกยึดพาสปอร์ต กักขังไว้และอ้างว่าจะมีค่าปรับจำนวนสูงหากหนีกลับมา ทำให้เหยื่อจำใจทำต่อไป ก่อนที่จะหนีออกมาขอความช่วยเหลือได้ จากนี้ บก.ปคม.จะสอบสวนรายละเอียดต่างๆ ก่อนขยายผลถึงตัวผู้ต้องหาแล้วติดตามมาดำเนินคดี