เมื่อเวลา  11.00  น.วันที่  3  ก.พ. 64  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ที่บ้านเลขที่  55  หมู่  3  บ้านแต้  ต.กุง  อ.ศิลาลาด  จ.ศรีสะเกษ  นางจันแดง  จันทพันธ์  อายุ  66  ปี  ได้นำศพของนายวายุ  จันทพันธ์ อายุ  17  ปี  ซึ่งเป็นหลานชายที่ได้ถูกนายสมศรี  จันทพันธ์ อายุ  44  ปี  ซึ่งเป็นพ่อของนายวายุ  ใช้มีดปลายแหลมแทงที่บริเวณหน้าอกจนเสียชีวิต  เมื่อช่วงใกล้ค่ำของวันที่  1  ก.พ.64  ที่ผ่านมา  ได้นำศพของนายวายุ  หรือน้องแพน  มาตั้งศพบำเพ็ญกุศล  โดยมีบรรดาญาติพี่น้องพากันมาจุดธูปเคารพศพของน้องแพนอย่างต่อเนื่อง  ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโศก  ซึ่งนางจันแดงได้ไปยืนอยู่ข้างรูปภาพของน้องแพน  พร้อมทั้งเอามือลูบรูปภาพของหลานชายด้วยความรักอาลัยหลานชายที่ต้องมาเสียชีวิตอย่างไม่คาดฝันด้วยน้ำมือของพ่อตนเอง 

นางจันแดง  จันทพันธ์  กล่าวว่า เมื่อช่วงใกล้ค่ำของวันที่ 1 ก.พ.64 ขณะที่ตนกำลังนั่งอยู่ภายในบ้าน  ซึ่งบ้านหลังนี้มีตนกับนายสมศรี ซึ่งเป็นลูกชาย  และน้องแพน  ซึ่งเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของนายสมศรี พักอาศัยอยู่ด้วยกัน  ตนได้ยินเสียงน้องแพนร้องด้วยความเจ็บปวดว่า ย่าเตี้ยช่วยด้วย  ตนจึงได้รีบวิ่งออกมาดู  จึงพบว่าน้องแพนนอนจมกองเลือดอยู่ใกล้กับประตูข้างบ้าน  และเห็นนายสมศรีถือมีดปลายแหลมอยู่ ตนจึงถามนายสมศรีว่า  ทำไมทำลูกแบบนั้น นายสมศรีตอบว่า แค่นี้มันไม่ตายหรอก  ตนจึงได้แจ้งให้เพื่อนบ้านทราบ  และแจ้งไปยัง รพ.ศิลาลาด เพื่อให้มาช่วยเหลือ  แต่น้องแพนก็เสียชีวิตในที่สุด  ซึ่งตนเสียใจมาก ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมา ซึ่งแม้ว่านายสมศรีจะฆ่าน้องแพนซึ่งเป็นลูกชายคนเดียวของตน  ตนซึ่งเป็นแม่ของนายสมศรีก็ได้ อโหสิกรรมให้กับนายสมศรี  ซึ่งตำรวจก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย  น้องแพนเป็นเด็กที่ดีมาก  ทำงานรับจ้างทั่วไป  หาเงินเลี้ยงย่า  ขณะนี้กำลังเรียนระดับชั้น  ปวช.2  สาขาช่างไฟฟ้ากำลัง  ของสถาบันอาชีวศึกษาแห่งหนึ่งของ  อ.ราษีไศล  นายสมศรีจะชอบดื่มเหล้า  แล้วอาละวาดด่าทอตบตีน้องแพน  รวมทั้งเคยตบตีตนด้วย  เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ตนรู้สึกเสียใจมากที่ลูกชายของตนต้องมาฆ่าหลานย่าที่ตนรักมาก

ขณะเดียวกัน  ที่สภ.ศิลาลาด  จ.ศรีสะเกษ  พ.ต.ท.ชัยฤทธิ์  ตังตา  สารวัตรสอบสวน  สภ.ศิลาลาด  เจ้าของคดี  ได้นำตัวนายสมศรีมาทำการสอบปากคำเพิ่มเติม  ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อหาว่า  ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา  ซึ่งนายสมศรีได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา  โดย  พ.ต.ท.ชัยฤทธิ์  กล่าวว่า  นายสมศรีจำนนต่อพยานหลักฐานที่ได้ใช้อาวุธมีดแทงนายวายุ  หรือน้องแพน  ลูกชายตนเองจนเสียชีวิต  ซึ่งโทษสูงสุดตามกฎหมายคือประหารชีวิต

ทางด้านนายสมศรี  จันทพันธ์  อายุ  44  ปี  ผู้ต้องหาฆ่าลูกชายของตนเอง  กล่าวว่า  ขณะนี้ตนสำนึกผิดแล้วที่ได้ฆ่าลูกของตนเอง  เพราะความมึนเมาจากการดื่มเหล้าอย่างหนัก  ตนเสียใจมาก  ตนได้ไปกราบขอขมาศพลูกชายแล้ว  และได้อธิฐานกับลูกชายว่า  หากชาติหน้ามีจริง  ก็ขออย่าได้เกิดมาเป็นลูกพ่ออีก  แต่ถ้าได้เกิดมาเป็นลูกพ่อ  ก็อย่าได้มาตกอยู่ในสภาพลำบากแบบนี้อีกเลย 

ขณะที่ นายธนวัฒน์  ขวัญทอง  อายุ  17  ปี  ซึ่งเป็นเพื่อนของน้องแพนที่ถูกพ่อใช้มีดแทงจนเสียชีวิต  กล่าวว่า  แพนเป็นคนขยันทำงานมาก  รวมทั้งชอบเล่นกีฬาทุกชนิด  การเรียนหนังสือก็เรียนอยู่ในเกณฑ์ดี  เมื่อว่างจากการเรียนหนังสือ  แพนก็จะออกมาทำงานรับจ้างทั่วไป  ไม่เลือกว่าจะต้องทำงานอะไร  ทั้งนี้เพื่อจะได้มีเงินมาไว้ให้ย่าได้ใช้จ่ายภายในครอบครัว  เนื่องจากว่าพ่อไม่ได้ทำงานอะไร  กินแต่เหล้าทุกวัน  ซึ่งเมื่อพวกตนทราบข่าวว่าแพนเสียชีวิต  ก็ได้พากันมาช่วยงานศพ  จนกว่าจะถึงพิธีฌาปนกิจศพในวันพรุ่งนี้ที่วัดบ้านแต้