จับกุม ! "แก๊งคนร้าย" ก่อเหตุใช้อาวุธปืนปล้นทรัพย์ฯ พร้อมของกลางเพียบ !
4 ก.พ. 2564, 15:21
เมื่อวันที่ 4 ก.พ.2564 ที่จังหวัดนครปฐม ตามนโยบายตำรวจภูธรภาค ๗ ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผบช.ภ.๗, พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย รอง ผบช.ภ.7 ได้สั่งการเร่งรัดให้จับกุมผู้กระทำความผิดก่อเหตุร่วมกันใช้อาวุธปืนปล้นทรัพย์ฯ ในพื้นที่ของ สภ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม เพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมาย กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค ๗ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.ภ.7 พ.ต.อ.ประสพชัย มัตสยะวนิชกูล รอง ผบก.ฯ , พ.ต.อ.ปรีดา อิ่มเจริญ รอง ผบก.ฯ ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ณัฐพิสิษฐ์ รัตนอุดมพล ผกก.สส.๑ บก.สส.ภ.7 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7
กองกำกับสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม พล.ต.ต.สุชาติ มณีจักร ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ชัชปัณฑการณ์ คล้ายคลึง รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ภาณุทัต เหลืองสัจกุล ผกก.สส.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.ท.เมธาสิทธิ์ ผุยหนองโพธิ์ รอง ผกก.สส.ฯ, พ.ต.ท.สักกะ ศรีฟ้า รอง ผกก.สส.ฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม สถานีตำรวจภูธรพุทธมณฑล พ.ต.อ.จุลภณ มีชำนาญ ผกก.สภ.พุทธมณฑล พ.ต.ท.วิเชธ เชยกลิ่น รอง ผกก.สสสภ.พุทธมณฑล พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรพุทธมณฑล ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา นายชัยภัทรหรือโจ้ แสงอภัย อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐมที่ 42/2564 นายณัฐภัทรหรือฟลุ๊ค คีตรัต อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐมที่ 43/2564 นายมีชัย หรือมิก ศรีพรม อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐมที่ 41/25644. นายอภิญญาหรือโฟล๊ค เพียรล้ำเลิศ อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม 40/2564
พร้อมด้วยของกลาง รถยนต์เก๋งยี่ห้อ HONDA CIVIC สีดำ หมายทะเบียน 4กด 2497 กรุงเทพมหานคร หมายเลขตัวรถ MRHFB2620FP101501 หมายเลขเครื่องยนต์ R18Z15003101 จำนวน 1 คัน (ที่ใช้ก่อเหตุ) ตรวจยึดจาก นายณัฐภัทร หรือฟลุ๊ค คีตรัต รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ SUZUKI SWIFT สีขาว หมายเลขทะเบียน 1กท 3400 กรุงเทพมหานคร หมายเลขตัวรถ MMSHZC72S00139222 หมายเลขเครื่องยนต์ K12BS139296 จำนวน 1 คัน (ที่ใช้ก่อเหตุ) ตรวจยึดจาก นายณัฐภัทร หรือฟลุ๊ค คีตรัต อาวุธปืนลูกซองเดี่ยว 5 นัดขนาด 12 ยี่ห้อ Reminton หมายเลขประจำปืน AB66323M หมายเลขทะเบียนปืน กท.5179374 และเครื่องกระสุนปืนจำนวน 17 นัด (ที่ใช้ในการก่อเหตุ) ตรวจยึด/จับกุม จากนายณัฐภัทร หรือฟลุ๊ค คีตรัต อาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ ขนาด .45 ยี่ห้อ Kimber หมายเลขประจำปืน k360665 หมายเลขทะเบียนปืน กท 55216547 และเครื่องกระสุนปืนจำนวน 17 นัด ตรวจยึด/จับกุม จาก นายณัฐภัทร หรือฟลุ๊ค คีตรัต และอาวุธปืนพกสั้นขนาด .45 ยี่ห้อ colt หมายเลขประจำปืน 584854 หมายเลขทะเบียนปืน อบ 5/1480 และเครื่องกระสุนปืนจำนวน 7 นัด ตรวจยึด/จับกุม จาก นายชัยภัทร หรือโจ้ แสงอภัย
โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธ และโดยใช้ยานพาหนะ เพื่อกระทำผิดหรือเพื่อพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม, หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และให้ผู้อื่นนั้นกระทำการใดให้แก้ผู้กระทำหรือบุคคลอื่น, ข่มขืนใจผู้อื่น และ ร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร ”
พฤติการณ์การจับกุม ด้วยเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.1 บก.สส.ภ.7 , เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.นครปฐม และ เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.พุทธมณฑล ได้ร่วมกันสืบสวนทราบว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุดังกล่าว ได้หลบหนีไปพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ ISUZU DMAX สีดำ หมายเลขทะเบียน 8กษ 36 กรุงเทพมหานคร ของ นายชัยภัทร หรือโจ้ แสงอภัย (หนึ่งในผู้ร่วมก่อเหตุ) และ รถยนต์ Toyota Fortuner สีขาวดำ หมายเลขทะเบียน บ-1889 กทม.(ป้ายแดง) ของนายณัฐภัทร หรือฟลุ๊ค คีตรัต (หนึ่งในผู้ร่วมก่อเหตุ) ขับสวนทางมา ขับขี่สวนมาบริเวณสามแยกวงเวียนแก่งกระจาน เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกให้ นายชัยภัทรฯ และนายณัฐภัทร ฯ จอดรถ นายชัยภัทรฯได้จอดรถบริเวณสามแยกวงเวียนแก่งกระจาน ส่วน นายณัฐภัทรฯ เมื่อพบเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขับขี่รถหลบหนี มุ่งหน้าไปยังอ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตามรถยนต์คันดังกล่าวได้ทัน ที่ ต.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี และเรียกให้จอด เมื่อรถยนต์คันดังกล่าวจอดลง เจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เมื่อสอบถามนายณัฐภัทร ฯ ให้การว่าตน , นายชัยภัทรฯ , นายอภิญญา หรือโฟล๊ค เพียรล้ำเลิศ และนายมีชัย หรือมิกซ์ เป็นกลุ่มคนที่ตรงตามผู้ต้องสงสัยตามปรากฏคลิปวีดีโอในภาพข่าวจริง และกลุ่มคนที่เหลือได้แยกย้ายกันหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เชิญตัวมายัง กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม เพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ดังกล่าว หลังจากนั้นจึงรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับบุคคลดังกล่าว และสืบสวนติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดที่ยังหลบหนีต่อไป