รอง ผบช.ภ.3 แถลงจับ "หนุ่มใหญ่" ผลิตธนบัตรปลอมฉบับละ 100 บาท จำนวน 976 ใบ
5 ก.พ. 2564, 15:20
เมื่อวันที่ 5 ก.พ. 64 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่บริเวณด้านหน้า สภ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รอง ผบช.ภาค 3 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สันติ เหล่าประทาย ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ พ.ต.อ.หัสพงศ์ เติมศิริตังคโนบล รอง ผบก.ภ.จ.ศรีสะเกษ พ.ต.อ.กฤษณ์ พรมดี ผกก.สส.ภ.จว.ศรีสะเกษ และ พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้ร่วมกันแถลงข่าว ผลการจับกุม นายพิชาภพ พันธ์คำ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 หมู่ที่ 9 ต.หนองไผ่ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วยของกลางประกอบด้วย ได้ก่อเหตุนำธนบัตรปลอมไปใช้โอนเงินในตู้เติมเงินออนไลน์หลายครั้งในหลายพื้นที่ในเขต จ.ศรีสะเกษ และจังหวัดใกล้เคียง โดยได้นำเอาของกลางเป็นธนบัตรปลอมฉบับละ 100 บาท จำนวน 976 ฉบับ พร้อมด้วย เครื่องตัดกระดาษ มาแถลงข่าวแก่สื่อมวลชนทุกแขนง
พล.ต.ต.สันติ เหล่าประทาย ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ กล่าวว่า สืบเนื่องจากช่วงวันที่ 24 ม.ค. 64 ที่ผ่านมา ในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ มีคนร้ายใช้ธนบัตรปลอมนำมาฝากเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ตู้เติมเงินออนไลน์ เข้าบัญชีธนาคาร แล้วถอนเงินสดผ่านตู้ ATM มาเป็นประโยชน์ส่วนตน สร้างความเสียหายให้แก่สถาบันทางการเงิน และผู้ประกอบการตู้เติมเงินออนไลน์ ดังนั้น เจ้าหน้าที่ ตร. จึงได้ประสานข้อมูลกับธนาคารและบริษัทตู้เติมเงิน ร่วมกันสืบสวนหาพยานหลักฐาน จากการสืบสวนโดยเริ่มจากการได้ตำหนิรูปพรรณรถยนต์และข้อมูลจากฝ่ายรักษาความปลอดภัย ของบริษัทตู้เติมเงิน ทราบถึงพฤติการณ์ของผู้ก่อเหตุ จึงได้ออกตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่ที่ผู้ก่อเหตุไปปรากฏตัวตามตู้เติมเงินออนไลน์หลายพื้นที่ จนสามารถสอบสวนทราบว่าผู้ก่อเหตุใช้รถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนซ์ ทะเบียน ทะเบียน ชฐ 3816 กรุงเทพมหานคร เป็นรถที่ผู้ก่อเหตุใช้ในการก่อเหตุ ต่อมาเมื่อวันที่ 4 ก.พ.64 สืบสวนทราบว่าผู้ก่อเหตุได้พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.เมืองศรีสะเกษ จว.ศรีสะเกษ และได้ตรวจพบรถต้องสงสัยที่ปรากฏตามกล้องวงจรปิดที่ได้มานั้น จอดอยู่ที่บริเวณห้องพักหมายเลข 10 หอพักแห่งหนึ่งเขต ต.หนองไผ่ อ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ จึงได้เข้าไปตรวจสอบห้องพักและสามารถจับกุม นายพิชาภพ พันธ์คำ ขณะที่กำลังถ่ายเอกสารธนบัตร ผลการตรวจสอบบริเวณภายในห้องพักพบ ธนบัตรปลอมฉบับละ 100 บาท จำนวน 976 ฉบับ อุปกรณ์การทำธนบัตรปลอม เครื่องปริ้นเตอร์ กระดาษ และกรรไกร รวมทั้งรถยนต์ที่ในการกระทำผิดจอดที่หน้าห้องพัก
พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบรูณ์ รอง ผบช.ภาค 3 กล่าวว่า จากการสอบสวน นายพิชาภพ พันธ์คำ ผู้ต้องหารายนี้ ได้ให้การรับสารภาพว่า ได้ทำการปลอมธนบัตรเอง แล้วจะนำไปใช้เติมเงินในตู้เติมเงินออนไลน์โดยวิธีนำธนบัตรปลอมเข้าเติมเงินที่เครื่องรับเติมเงินแล้วโอนเงิน เข้าเลขบัญชีธนาคาร ธนาคารกสิกรไทย เลขที่บัญชี 058-8-51568-0 ชื่อบัญชี นายอานนท์ ปลื้มญาติ ซึ่งเป็นบัญชีธนาคารที่ นายพิชาภพ พันธ์คำ ผู้ต้องหา รับว่า ตนติดต่อซื้อบัญชีมาจากอินเทอร์เน็ตโดยการแนะนำจากเพื่อน ในราคา 5,000 บาท ซึ่งจะได้บัญชีธนาคารพร้อมกับซิมการ์ดเบอร์โทรศัพท์ รหัส ที่ผูกเข้ากับแอปพลิเคชั่นของธนาคารเพื่อที่จะสะดวกในการรับโอนเงิน และยังให้การรับว่าตนได้ก่อเหตุใช้ธนบัตรที่ตนทำการผลิตขึ้นไปเติมเงินในตู้เติมเงิน หลายครั้ง โดยมีรายละเอียด คือ เมื่อวันที่ 24 ม.ค.64 ได้นำธนบัตรปลอมใช้เติมเงินตู้เติมเงิน หน้าโรงเรียนมารีวิทยา ต.หนองครก อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 64 ได้นำธนบัตรปลอมใช้เติมเงินตู้เติมเงิน บริเวณปากทางเข้าวัดป่าศรีสำราญ ต.เมืองใต้ อ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ วันที่ 28 ม.ค.64 ได้นำธนบัตรปลอมใช้เติมเงินตู้เติมเงิน บริเวณแยกส้มป่อย ต.สำโรง อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ วันที่ 31 ม.ค. 64 และ วันที่ 1ก.พ.64 ได้นำธนบัตรปลอมใช้เติมเงินตู้เติมเงิน ที่หน้าโลตัสเอ็กเพลส สาขามหาชนะชัย อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร วันที่ 2 ม.ค.64 ได้นำธนบัตรปลอมใช้เติมเงินตู้เติมเงิน ที่หน้าโลตัสเอ็กซ์เพลส สาขาศีขรภูมิ ต.ระแงง อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ รวมมูลค่าความเสียหาย ประมาณ 41,110 บาท ซึ่งผู้ต้องหารับว่าตนได้ก่อเหตุปลอมธนบัตรเพียงคนเดียว โดยจะดูวิธีการปลอมธนบัตรจากทางสื่อต่าง ๆ และจดจำนำมาทดลองผลิตใช้เอง เจ้าหน้าที่ ตร. จึงได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า ปลอมเงินตรา มีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งเงินตราปลอมอันตนได้มา จากนั้น นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางไปส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.ศรีสะเกษ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป