เตือน 49 จังหวัด รวมทั้งกทม.-ปริมณฑล รับมือพายุฝนถล่มหนัก 7-9 ก.พ.นี้ ก่อนอุณหภูมิลดฮวบ 4-6 องศา
7 ก.พ. 2564, 08:27
ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 5 ลงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2564 เรื่อง "พายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบริเวณประเทศไทยตอนบน" ด้วยในช่วงวันที่ 7 - 9 กุมภาพันธ์ 2564 บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ในบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยจะเริ่มมีผลกระทบบริเวณภาคเหนือในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2564 ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล มีผลกระทบในวันที่ 8-9 กุมภาพันธ์ 2564 ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองที่จะเกิดขึ้น
โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง รวมถึงระวังอันตรายจากฟ้าผ่า สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส ในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ส่วนบริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส
ทั้งนี้เนื่องจากจะมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกเคลื่อนผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ในขณะที่มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทย และทะเลจีนใต้ เข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล
จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ มีดังนี้
วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2564
ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ตาก ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน และแพร่
ในช่วงวันที่ 8 - 9 กุมภาพันธ์ 2564
ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร กำแพงเชร และเพชรบูรณ์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี อ่างทอง สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา รวมทั้งกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล
ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง