"ศักดิ์สยาม" สั่งเพิ่มระดับรักษาความปลอดภัยคมนาคมทุกประเภท ยันยังให้บริการปกติ
2 ส.ค. 2562, 19:19
วันนี้ ( 2ส.ค.62 ) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ตามที่เกิดเหตุระเบิดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้สั่งการให้ผู้บริหารหน่วยงานของกระทรวงคมนาคม และผู้รับผิดชอบเพิ่มระดับการรักษาความปลอดภัย โดยเฉพาะพื้นที่การบริการสาธารณะทุกประเภท พร้อมขอให้เฝ้าระวังติดตารมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และหากเกิดเหตุการณ์สำคัญขอให้เข้าดำเนินการโดยเร่งด่วน
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (บีทีเอส) กล่าวว่า บีทีเอสยังคงให้บริการตามปกติทุกสถานี โดยจะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ทั้งในการปฏิบัติงาน และดูแลความปลอดภัย ล่าสุด ฝ่ายบริหารที่ดูแลเรื่องความปลอดภัยได้ไปประชุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว แต่เบื้องต้นยังไม่ต้องขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมารักษาความปลอดภัยเพิ่ม
ทั้งนี้ได้สั่งการกำชับให้เจ้าหน้าที่ของบีทีเอสทุกสถานี ให้เฝ้าระวังเรื่องความปลอดภัยเพิ่มขึ้น และเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ในการตรวจรักษาความปลอดภัย และเดินตรวจสอบจุดเสี่ยงต่าง ๆ ทั้งพื้นถนน ชั้นจำหน่ายตั๋ว และชั้นชานชาลา ตามมาตรฐานการดูแลความปลอดภัยที่มีการฝึกซ้อมตลอดมา
ขณะเดียวกันยังขอความร่วมมือกับผู้โดยสาร ขอให้ผู้โดยสารให้ความร่วมมือในการตรวจสัมภาระก่อนเข้าสู่สถานี และหากพบสิ่งผิดปกติหรือวัตถุต้องสงสัยขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ประจำสถานีทันที
ด้านนายภคพงศ์ ศิริกันทรมาส ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้กำชับบริษัทผู้รับสัมปทานบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพจำกัด (มหาชน) ให้กำชับเจ้าหน้าที่และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้เพิ่มมาตรการความปลอดภัย ซึ่งปัจจุบันภายในสถานีมีประตูตรวจโลหะ และมีเจ้าหน้าที่ตรวจสัมภาระก่อนที่ผู้โดยสารจะเดินทางเข้าไปใช้บริการภายในสถานี และมีหน่วยสุนัขตรวจค้นวัตถุระเบิด
ขณะนี้ได้สั่งการให้เพิ่มรอบตรวจความถี่เพิ่มขึ้น และมีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในแต่ละท้องที่อยู่แล้ว หากพบวัตถุต้องสงสัยหรือเกิดเหตุก็สามารถดำเนินการได้ทันที
นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด เปิดเผยว่า ได้เน้นย้ำมาตรการรักษาความปลอดภัยสูงสุด ซึ่งบริษัทฯได้ปฏิบัติมาโดยตลอดในการให้บริการแก่ผู้โดยสารในระบบรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนในการใช้บริการโดยเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบสัมภาระผู้โดยสาร เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบบุคคลและวัตถุต้องสงสัยเพิ่มกำลังพลชุดสุนัขตรวจวัตถุระเบิด (K9) เพื่อเข้าตรวจสอบวัตถุระเบิดภายในระบบรถไฟฟ้าและขบวนรถไฟฟ้า และเพิ่มการตรวจใต้ท้องรถยนต์และท้ายรถยนต์ที่จะเข้ามาในลานจอดรถสถานีรถไฟฟ้ามักกะสัน