วันนี้ ( 5 มิ.ย.62 ) นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ลงพื้นที่สวนสับปะรดเยี่ยมเกษตรกรปลูกพืชทดแทนช่วงราคายางตกต่ำ โดยระบุว่า "วันนี้ผมและทีมเกษตรหัวหน้ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เราพามาดูตัวอย่างในเรื่องของการปรับเปลี่ยนชนิดพืชที่จะปลูกทดแทนยางพารา เราทราบกันว่าราคายางพาราในตอนนี้ก็ค่อยๆไป แต่อาจจะยังไม่ถูกใจพี่น้องชาวเกษตรกรชาวสวนยางในบางพื้นที่ที่เคยได้สูงกว่านี้"

โดยผู้ว่าฯบึงกาฬ กล่าวเพิ่มเติมว่า "วันนี้รัฐบาลมีหลักการใช้ทฤษฎีการตลาดนำการผลิตนำมาพิจารณาเสนอทางเลือกที่จะปลูกพืชทดแทนยางพารา ที่บึงกาฬแห่งนี้ตัวอย่างที่ผมพามาดูคือการปลูกสับปะรด เราใช้หลักการคือสับปะรดที่คนต้องการคือสับปะรดที่คนกิน เราใช้สับปะรดพันธุ์ปัตตาเวียมาปลูกที่บึงกาฬ ก็จะได้เนื้อฉ่ำหวาน ไม่กัดลิ้น มากกว่าต้นกำเนิดทางภาคใต้ ที่นี่ปลูกทดลองในเกษตรกรที่ยอมเปิดใจรับฟังคำแนะนำใหม่ๆ ว่าถ้าท่านเคยมีรายได้จากยางพาราปีละเฉลี่ย 2 หมื่นบาท ท่านจะลองเปิดใจพิจารณาปลูกพืชอื่นไหม ก็เริ่มที่สับปะรดนะครับ ก็ลองกันไปแล้วหนึ่งฤดูการผลิตปีนี้ ก็ได้เฉลี่ยที่ประมาณ "ไร่ละ 5 หมื่นอย่างต่ำ (เสียงจากเกษตรกรผู้ปลูก)" ไร่ละ 5 หมื่นบาทอย่างต่ำนะครับ 

อย่างไรก็ตาม นายนิรัตน์ ยังกล่าวอีกว่า ปลูกสับปะรดพันธุ์ที่กระทรวงเกษตรแนะนำว่าตลาดต้องการอย่างไร พี่น้องได้ปรับเปลี่ยนจากยางพารามาปลูกสับปะรด และทางทีมกระทรวงเกษตรก็ดูแลเรื่องการตลาด กับทีมกระทรวงพาณิชย์ ว่าปลูกแล้วขายที่ไหนอย่างไร ได้ราคาที่พี่น้องประชาชนพอใจไหม ผลลัพธ์ก็ได้อย่างที่เกษตรกรบอกเมื่อสักครู่ ไร่ละ 5 หมื่นอย่างต่ำ ยืนยันว่าผู้ว่าฯไม่ได้บังคับให้ปลูกนะ แต่ให้ทดลองดู และเมื่อสำเร็จก็อยากให้เป็นตัวอย่างให้พี่น้องชาวสวนยางในพื้นที่อื่นๆก็ลองพิจารณาดู เรามีพืชหลายประเภทหนึ่งในนั้นก็คือสับปะรด ขอคำแนะนำได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอ ทุกอำเภอของจังหวัดบึงกาฬนะครับ เราจะแนะนำพืชทางเลือกที่มีรายได้ดีที่พี่น้องจะสู้ปลูกยางพาราเพียงอย่างเดียวครับ"