เปิดใจ!! สาววัย 25 ปี เหยื่อกระสุนจากวัยรุ่นเปิดศึกตะลุมบอนกลางแยกสัญญาณไฟ
8 ก.พ. 2564, 16:37
วันที่ 8 ก.พ. 64 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า จากเหตุการณ์ที่กลุ่มวัยรุ่น 2 กลุ่ม ที่กำลังยกพวกตะลุมบอนกัน ทั้งใช้มีดไล่ฟันและใช้อาวุธปืนยิงใส่กัน จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส จำนวน 2 ราย ส่วนชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ ต่างวิ่งหนีตายเอาชีวิตรอดกันกระเจิง โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 23.30 น. ของคืนวันนี้ 6 ก.พ. 64 ร.ต.อ.กรเทพ จันทรานภาภรณ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอ่างทอง ได้รับแจ้งว่ามีเหตุทำร้ายร่างกายกัน เหตุเกิดบริเวณแยกไฟแดงเรือนจำอ่างทอง ตำบลศาลาแดง อำเภอเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง ส่งผลทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส จำนวน 2 ราย ถูกนำตัวส่ง รพ.อ่างทอง หลังได้รับแจ้งจึงรีบรุดไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองอ่างทอง
จากการสอบสวนทราบว่ากลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุมีด้วยกัน 2 กลุ่ม คือ กลุ่มของ นาย ดิตถพงษ์ จิตวิปูน ได้ชวนกันไปเที่ยวกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ที่ อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง และได้ไปมีเรื่องชกต่อยกับกลุ่มของ นาย นฤเบศร์ พลเรือน ซึ่งเป็นคู่อริเก่าที่ร้านอาหารดังกล่าว พอทั้ง 2 กลุ่ม ได้ออกจากร้านอาหาร และได้ขับรถมุ่งหน้ามาที่ตัวเมืองอ่างทอง พอมาถึงที่บริเวณโรงเรียนสตรีอ่างทอง ทั้ง 2 กลุ่ม ได้มีการตะโกนด่ากัน และพอมาถึงที่เกิดเหตุบริเวณแยกไฟแดงเรือนจำ หน้าบ้านบ่อปลาใหญ่ ได้มีการชกต่อ ใช้มีดฟันกันและยิงกัน โดยมี นาย กร ไม่ทราบชื่อจริง และนามสกุลจริง ซึ่งอยู่ในกลุ่มของ นาย นฤเบศร์ ได้มาชกต่อยและฟัน นาย ดิตถพงษ์ โดยฟันไปที่ใบหน้าด้านขวา และแขนซ้าย จนได้รับบาดเจ็บ และนางสาวกนกวรรณ สร้อยสลับ ซึ่งมากับกลุ่มของ นาย ดิตถพงษ์ ถูกยิงที่บริเวณข้อเท้าด้านขวา กระสุนถากที่ข้อเท้า โดยไม่ทราบว่าผู้ใดยิง ผู้บาดเจ็บทั้งสองคนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอ่างทอง ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุน จำนวน 4 ปลอก ตกอยู่บนถนนในที่เกิดเหตุ
ความคืบหน้าล่าสุด นางสาวกนกวรรณ สร้อยสลับ หรือพลอย อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25/2 หมู่ที่ 10 ตำบลม่วงเตี้ย อำเภอวิเศษชัยชาญ ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย กระสุนเฉี่ยวเข้าบริเวณข้อเท้าขวา หากโดนที่จุดสำคัญคงเสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนเองได้ไปเที่ยวในกลุ่มที่ร้านเกิดเหตุ จนมีเรื่องทะเลาะวิวาทต่อยกันที่หน้าร้านไปครั้งหนึ่งแล้ว ตนเองคิดว่าคงจะเลิกรากันไป แต่ได้มาเจอกับกลุ่มคู่อริบริเวณหน้าโรงเรียนสตรีอ่างทอง จากนั้นทั้ง 2 กลุ่ม จึงได้เบิ้ลเครื่องรถและตะโกนด่าให้ของลับใส่กัน หลังจากออกมาถึงแยกศาลาแดงหน้าร้านปลาใหญ่ ทางกลุ่มคู่อริได้ใช้อาวุธปืนเปิดฉากยิงก่อนได้ 2 – 3 นัด กระสุนมาเฉี่ยวขาของตนเอง จึงได้วิ่งไปขอความช่วยเหลือในอู่ซ่อมรถที่อยู่ใกล้กัน หลังจากนั้นทั้ง 2 กลุ่มจึงได้เปิดฉากเข้าตะลุมบอนกัน โดยทางฝ่ายตนเองยืนยันว่าไม่มีอาวุธ มีเพียงขวดเหล้าขวดเดียวที่เหลือกลับมา แต่ทางฝ่ายตรงข้ามกับมีทั้งมีดและปืน ซึ่งตนเองคิดว่าสาเหตุน่าจะมาจากเรื่องที่ไปกดว้าวในเพจเฟซบุ๊กเพจหนึ่ง ทำให้รู้สึกว่าเป็นการท้าทายกัน จนทำให้มีเรื่องราวทะเลาะกัน ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนก็เคยเป็นเพื่อนกัน ส่วนน้องชายมาถูกมีดฟันที่ใบหน้าอาการสาหัสต้องเข้าห้องผ่าตัดในวันนี้
ด้าน พ.ต.อ.วิชัยนาวิน อนันต์ ผกก สภ.เมืองอ่างทอง กล่าวว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสอบสวนจนสามารถออกหมายจับ นาย กิตติกรณ์ หรือกรณ์ หลงลอง อายุ 23 ปี เนื่องจากสืบทราบมาว่าเป็นผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นคู่อริจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งทางกลุ่มผู้บาดเจ็บกล่าวหาว่า อีกฝ่ายหนึ่งเป็นผู้ลงมือทำร้ายกลุ่มของตนเองก่อน แต่หากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสอบสวนว่าทั้ง 2 ฝ่าย ร่วมกันก่อการวิวาท ก็จะดำเนินคดีกับกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 2 ฝ่าย โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบสวนผู้ได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติม เพื่อที่จะหาผู้ที่ร่วมกันกระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายเพิ่มเติม ว่ามีคนใดร่วมกันก่อเหตุบ้าง ซึ่งทราบว่าวันนี้ผู้ได้รับบาดเจ็บถูกส่ง นาย ปาล์ม ถูกส่งตัวเข้าไปเย็บแผลในห้องผ่าตัด คงต้องรอให้อาการดีขึ้น ส่วนของอาวุธปืนที่ทางผู้ต้องหาอ้างว่าได้นำไปทิ้งไว้ที่สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ถนนเลี่ยงเมืองอ่างทอง ทางเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ลงไปงมใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง แต่ก็ยังไม่พบอาวุธปืนของกลาง คงจะต้องสอบสวน นาย กรณ์ อย่างละเอียดว่านำไปทิ้งไว้จุดใดแน่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวกลุ่มวัยรุ่นที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้มาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป