"ตู่ ปิยวดี" ศิษย์เก่า JC คนเก่ง ผู้จัดละครโทรทัศน์เรทติ้งปัง ทางช่อง3
9 ก.พ. 2564, 09:02
ตู่ ปิยวดี มาลีนนท์ ทายาทตระกูลมาลีนนท์ ผู้บริหารธุรกิจโทรทัศน์ ช่อง 3 เพราะความเป็นคุณหนูขาลุยเธอจึงได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบดูแลงานละคร และการตลาดของช่อง 3 เธอตั้งเป้าว่า วันนึงคนต้องรู้จักเธอ และยอมรับฝีมือการทำงานมากกว่าการเป็นแค่ลูกคุณพ่อ”ประชา มาลีนนท์”
เพราะครอบครัวอยู่ในธุรกิจโทรทัศน์ ตู่ จึงตัดสินใจเลือกเรียนปริญญาตรีด้านวิทยุ โทรทัศน์ จากคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเดินทางไปเรียนต่อปริญญาโทด้านการเงิน(Finance) จากมหาวิทยาลัยบอสตัน และได้ประกาศนียบัตรด้านการตลาดอีกหนึ่งใบจากที่เดียวกัน
เมื่อได้เรียนรู้มาอย่างเต็มที่แล้ว จึงเข้าเริ่มงานที่ช่อง 3 ทันที โดยได้รับมอบหมายให้ดูแลด้านการตลาด ซึ่งมีหน้าที่หลักในการดูแลภาพลักษณ์ให้กับช่อง โดยวางแผนการตลาดว่า ต้องจัดกิจกรรมอะไรบ้างในแต่ละปี รวมถึงการสำรวจเรตติ้ง เพื่อทำรายงานให้ผู้บริหารทราบถึงทิศทางการตลาดว่าเป็นอย่างไร
ถามว่ายากมั้ย? กับการเข้ามาทำงานในตำแหน่งนี้ ตู่ รีบบอกว่าไม่ยาก... เพราะทีมงานมีความพร้อมอยู่แล้ว จะติดขัดบ้างก็ในช่วงแรกของการทำงาน ที่เพื่อนร่วมงานดูจะเกร็งกับการมีลูกหลานผู้บริหารมาร่วมงานด้วย
หลังพิสูจน์ฝีมือมาได้ระยะหนึ่ง ด้วยความที่เป็นคนกล้าคิด กล้าทำ และลุยงาน เธอจึงได้รับโอกาสให้เปิดธุรกิจผลิตละครในนาม บริษัท Wave Media Production จำกัด ทำละครป้อนช่อง 3
“เมื่อโอกาสเข้ามาหาเราแล้ว ถ้าเราไม่กล้าทำ...สิ่งใหม่ๆก็จะไม่ได้เข้ามาในชีวิตเรา" และเธอก็ทำได้ดีจากงานแรก คือ ละครซิทคอม "มหาชนชาวแฟลต" หลังได้รับเสียงตอบรับดี จึงเริ่มทำละครเรื่องต่อมา จากแนว Remake จนมาถึงละครแนวปัจจุบันป้อนช่อง 3 เรื่อยมา อาทิ ทัดดาวบุษยา, วนาลี, แววมยุรา, พรพรหมอลเวง, รักสุดฤทธิ์, แก้วตาหวานใจ, บ่วงอธิฏฐาน, บัลลังก์ดอกไม้, ความทรงจำสีจาง, ซ่านเสน่หา และ ลางเสน่หา เป็นต้น
“ตู่เลือกเรียนเอกวิทยุโทรทัศน์ คณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพราะตั้งใจว่าต้องมาช่วยกิจการครอบครัว ตอนมาทำงานที่ช่อง 3 เริ่มจากการเป็นเจ้าหน้าที่การตลาดธรรมดาๆ ตอนนั้นคุณพ่อเป็นกรรมการผู้จัดการ ยุคนั้นแทบไม่มีลูกหลานมาลีนนท์ทำงานช่อง 3 แต่ตู่ตั้งใจไว้เลยว่าวันหนึ่งคนจะต้องรู้จักเราในฐานะ “ปิยวดี มาลีนนท์” ไม่ใช่ลูกสาวของ “ประชา มาลีนนท์” เพราะพ่อคงไม่สามารถอยู่กับเราได้ตลอดไป ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ ตู่ไม่มีห้องทำงานเหมือนผู้บริหารคนอื่น เพราะอยากคลุกคลีใกล้ชิดกับพนักงาน
ตู่เรียนรู้การทำงานเองตั้งแต่นับของพรีเมียมในห้องเก็บของ ไปจนถึงเคลียร์บิลบัญชี พอทำมาร์เก็ตติ้งสักพักก็ขยับมาเป็นหัวหน้าแผนกกลยุทธ์ และปัจจุบันเป็นผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการตลาด ส่วนการเป็นผู้จัดละคร คุณพ่อเป็นคนแนะนำให้ทำ เริ่มจากการทำซีรีส์เรื่อง “มหาชนชาวแฟลต” ประสบความสำเร็จดี และจากที่โดนสบประมาทว่าเด็กเส้น ตู่พิสูจน์ตัวเองด้วยการทำละครเรื่องแรก “ทัดดาวบุษยา” ได้เรตติ้งสูงสุดของช่อง 3 ในปีนั้น
ปัจจุบันเธอเป็นผู้จัดละคร ช่อง 3 อย่างเต็มตัว และรับตำแหน่งกรรมการ บริษัท เวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเปลี่ยนชื่อจาก บริษัท ซีวีดี เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) นอกจากนั้นเธอยังเป็นผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการของไทยทีวีสี ช่อง 3 อีกด้วย
ส่วนหลักการทำงานตู่เล่าว่า เธอเน้นการให้ความเป็นกันเอง เพื่อให้ทีมงานทุกคนทำงานสบายๆ ไม่เกร็ง จะได้กล้าออกความคิดเห็น และรักในงานที่ทำ...ทำให้ทุกคนที่ร่วมงานกับเธอมีความสุข และพร้อมร่วมแรงร่วมใจกันทำงานอย่างเต็มที่ ส่วนผลงานเรื่องใหม่ต้องรอติดตามเธอต่อไป
ที่มา : สมาคมวารสารศาสตร์ ธรรมศาสตร์ (Journalism Alumni Association)