โดยวันนี้ (2 ส.ค.62) เวลา 14.30 น.พนักงานวิทยุสภ.หนองหานรับแจ้งจากตร.สืบสวนสภ.หนองหานขอกำลังสนับสนุนจับคนร้ายนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ หลังยิงปืนต่อสู้เจ้าหน้าที่และหนีการจับกุมพร้อมกับ 2 ยายวัย 70 ปีชาวบ้านคำอ้อเป็นตัวประกัน ต่อมากำลังสนับสนุนจากตร.สืบสวนภูธรจังหวัดอุดรธานีกว่า 50 นายพร้อมอาวุธปืนครบมือเดินทางไปยังที่เกิดเหตุทันที พบบ้านหลังเกิดเหตุบ้านเลขที่ 33 หมู่ 7 บ้านคำอ้อ ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน ซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำกลางหมู่บ้าน อยู่กลางซอยทางไปวัดอารามมหาธาตุ บ้านคำอ้อ ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี โดยคนร้ายกำลังหลบอยู่ชั้นบนของบ้านและมีอาวุธปืนพร้อมต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ได้ตลอดเวลา ทราบชื่อต่อมาคือนายวิวัฒน์ ชัยแก้ว อายุ 36 ปี หรือ “เอส” ตามประวัติของเจ้าหน้าที่ตร.ชุดสืบสวนสภ.หนองหานถือเป็นนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ จนได้ฉายา “ราชายาเสพติดเมืองหนองหาน” และหนีหมายจับคดีฆ่าคนตาย กำลังหลบอยู่ชั้นบนของบ้าน ส่วนตัวประกัน 2 ยายทราบชื่อต่อมาคือนางหนูจร บุญเต อายุ 71 ปีเจ้าของบ้าน และนางศร ศรีชำนาญ อายุ 77 ปีเพื่อนบ้านสะบัดหนีจากคนร้ายได้ก่อนหน้านี้

 

 

 

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตร.ชุดสืบสวนภูธรจ.อุดรธานีได้นำกำลังมาสมทบได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ และได้กันชาวบ้านที่ทราบข่าวแห่มามุงดูจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ต้องกันคนไม่เกี่ยวข้องออกไป ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้พยายามเกลี้ยกล่อมคนร้ายให้มอบตัวกับเจ้าหน้าที่แต่ไม่เป็นผล ผ่านไปกว่า 1 ชม.ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัดบนบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งนายเอสอยู่บนบ้านคนเดียวเมื่อเจ้าหน้าที่ตร.เข้าไปตรวจสอบบนบ้านพบว่านายวิวัฒน์ใช้อาวุธปืนจ่อศีรษะตัวเองไปเสียแล้ว

 

หลังนายเอสราชายาเสพติดปลิดชีพตัวเอง พ.ต.อ.เชี่ยวชาญ มีชัย ผกก.สภ.หนองหาน พร้อมด้วยนายเฉลิมศักดิ์ อินทร์หา ปลัดอาวุโสอ.หนองหาน และตร.พิสูจน์หลักฐานเดินทางไปที่เกิดเหตุพบว่า เพื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านของนางหนูจร เป็นบ้านที่นายเอสหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่และหวังจับเจ้าของบ้านเป็นตัวประกันแต่เจ้าของบ้านสะบัดหลบหนีออกมาได้ ในที่เกิดเหตุพบรอยเลือดที่นายเอสถูกเจ้าหน้าที่ยิงเป็นทางยาวบริเวณพื้นปูนชั้นล่างของบ้าน หลายจุดและมีรอยเลือดหยดทางบันไดขึ้นไปบนชั้นบนของบ้าน เมื่อขึ้นไปบนชั้นบนของบ้าน พบร่างของนายเอสที่สวมกางเกงสามส่วนสีส้มไม่สวมเสื้อนอนจมกองเลือดและมีอาวุธปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่ใกล้ศพด้วย ตร.พิสูจน์หลักฐานได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อประกอบคดี

 

สำหรับเหตุการณ์ระทึกนักค้ายาบ้าจับยายเป็นตัวประกันครั้งนี้ คงไม่มีใครตกใจโสตายมากกว่า 2 ยายคือนางหนูจร บุญเต อายุ 71 ปีเจ้าของบ้าน และนางศร ศรีชำนาญ อายุ 77 ปี ที่ถูกนายเอสจับเป็นตัวประกันแต่รอดชีวิตออกมาได้อย่างหวุดหวิด เล่าเหตุการณ์ระทึกให้ผุ้สื่อข่าวฟังว่า ช่วงประมาณบ่ายวันนี้ขณะที่กำลังนอนเล่นอยู่แคร่หน้าบ้านกับนางศรเพื่อนบ้านที่มาเล่นประจำ ก็เห็นนายเอส ซึ่งเป็นหนุ่มในหมู่บ้านวิ่งหนีมาจากท้ายซอยมีร่องรอยถูกยิงที่ขาเลือดอาบมาด้วย และมีปืนอยู่ในมือด้วย บอกว่า ช่วยผมด้วย ช่วยผมด้วย จากนั้นก็เห็นตร.หลายคนถือปืนหน้าตื่นวิ่งตามมาไม่ห่างกัน นายเอสไม่พูดพร่ำทำเพลงตอนแรกล็อคคอ นางศรที่ถูกนายเอสล็อคคอไว้คนแรกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดเหตุสะบัดหนีคนร้ายแล้ววิ่งหนี ต่อมาคนร้ายได้จับนางหนูจร เจ้าของบ้าน พร้อมบอกให้เจ้าหน้าที่อย่าเข้ามาพร้อมจะยิงได้ทุกเมื่อ นางหนูจร บอกว่าด้วยความตกใจและโสตายแล้วจึงสะบัดมือจากที่ถูกคนร้ายล็อคคอหนี  เกิดมา 70 กว่าปีไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้และเห็นคนร้ายวิ่งขึ้นไปบนบ้าน จนสุดท้ายก็ยิงตัวเองตาย นางหนูจรบอกว่า รอดมาได้เป็นบุญคุณพ่อแม่ ถือว่าโสตายแล้วไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาเลยในชีวิต พระคุ้มครอง