บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี เปิดใจผ่านรายการ Z story ว่า เธอทำความดีมาตั้งแต่ประกวดนางสาวไทย แต่เริ่มมาทำองค์กรทำดี เมื่อ 7-8 ปีที่ผ่านมา เพราะ บางเคสไม่สามารถทำงานคนเดียวได้ จึงต้องทำงานกันเป็นทีม และบางครั้งต้องประสานงานกับนักข่าวอาชญากรรม รวมถึงกู้ภัยเพื่อช่วยเหลือเรื่องข้อมูลซึ่ง บุ๋ม ยอมรับว่า ที่ผ่านมาช่วยเหลือคนเยอะมาก การที่ เธอ ช่วยเหลือใครสักคน ต้องมีคนที่เสียผลประโยชน์กับสิ่งนั้น มาเกลียดเราเพิ่มขึ้นอีกคน อย่าง การช่วยเหลือการค้ามนุษย์ หรือ คดีความเกี่ยวกับการข่มขื่น

โดยที่ผ่านมาเคยไปทำลายซ่อง และมีคนที่เสียผลประโยชน์เดินมาหาบุ๋ม แล้วพูดต่อหน้าว่า “คุณบุ๋มคุณมาทำไม กลับไปเถอะ” ซึ่ง บุ๋ม ตอบว่า “ไม่กลับ”อีกทั้งยังเคยโดนเคสหนักถึงขั้นขู่จะเอาชีวิต โดยวางปืน M16 ไว้บนโต๊ะ แล้วบอกว่าอีบุ๋มมึงดูนะ ถ้ามึงยังทำแบบนี้อยู่ กูจะเอามึงให้ตาย รวมถึงส่งจดหมายและข้อความบอกว่า “อีบุ๋มมึงระวังลูกมึงเอาไว้ให้ดี”

นอกจากนี้ ประมาณกว่า 10 ปีที่แล้ว บุ๋ม เคยไปลงโปรเจ็กต์ของโรงเรียนทาง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งที่นั้นวางระเบิดบุ๋มเป็นประจำ ถึงขนาดทำคาร์บอมบ์ปี57 โดยทุกครั้งที่ บุ๋ม ขึ้นรถตู้ ทหารจะเอาปืน 9 มม.เสียบให้หน้าเบาะให้บุ๋มเพื่อเอาไว้ป้องกันตัว

 

ซึ่ง บุ๋ม เข้าใจ เพราะใจเราไปช่วยตรงนั้น มันก็เลยเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ทำให้ บุ๋ม ต้องคุยกับคนในครอบครัวถึงสิ่งที่เราตั้งใจทำความดี โดยทุกคนในบ้านพูดตรงกันว่า ทนไม่ได้ที่จะเห็นผู้หญิงโดนรังแก ส่วนลูกบุ๋มนั้น เธอได้คุยกับลูกสาว “น้องอันดามัน” ว่า แม่เตรียมเคลียร์สมบัติทุกอย่างให้แล้ว หนูสามารถเรียนจบเป็นหมออย่างที่หนูต้องการ แต่หนูต้องเข้าใจงานของแม่ ดังนั้นหนูต้องดูแลตัวของหนูให้ดี แม่ทำทุกอย่างเพราะ อยากให้ลูกภูมิใจมีแม่คนนี้เป็นแม่ของหนู และหนูต้องระวังตัวเองให้ดี เพราะแม่ต้องทำงานแบบนี้เพื่อต้องการช่วยคน

โดยลูกสาวก็เข้าใจและไม่เคยงอแง ซึ่งเมื่อวานนี้เพิ่งนั่งเคลียร์กับลูก ถ้าแม่ตายจัดงานศพกี่วัน ลูกสาวก็บอกว่าวันเดียว จน บุ๋ม บอกว่า 3 วันเดี๋ยวต่างจังหวัดมาไม่ทัน ส่วนที่ลูกสาวต้องกล่าวในงานแม่ ลูกไม่ต้องเป็นห่วง เอาในวิกิพีเดียได้ แล้วลูกสาวก็เปิดดูจริงๆ แล้วบอกแม่ว่า มันยาวมากเลย หนูเอาSIRI อ่านได้ไหมประวัติแม่เยอะ