รอง ผบ.ตร. เร่งปิดคดียิง ร.ท. ดับคาค่าย ยันยังไม่ตัดทิ้ง ปมชู้สาว-ยิงผิดตัว
12 ก.พ. 2564, 18:34
วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ห้องประชุมชั้น 5 อาคารแสงสิงแก้ว กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ( บก.ภ.จว.นครพนม ) พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ( รอง ผบ.ตร. ) พร้อมด้วย พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 (ผบช.ภ.4) พล.ต.ต.อรรคพงศ์ พิมลศริ รอง ผบช.ภ. 4 พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม ผบก.สส.ภ.4 พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผบก.ภ.จว.นครพนม พ.ต.อ.(หญิง) จิรนันท์ ธนะสิงห์ พิสูจน์หลักฐานจังหวัดนครพนม (พฐ.ฯ) ร่วมกับคณะเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนฯ ประชุมร่วมกับฝ่ายทหาร มี พ.อ.สถาพร บุญชู รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210 ( รอง ผบ.มทบ.210 ) พ.อ.นิรุธ ขุมทอง หัวหน้ากองกำลังพล พ.อ.ทรงศักดิ์ สิมพะรักษ์ หัวหน้ากองข่าวฯ เพื่อเร่งรัดติดตามความคืบหน้าของคดีฆาตกรรมสังหารโหดจ่อยิง ร.ท.รุ่งเฉลิม พันธ์สวัสดิ์ หรือหมวดบอล อายุ 34 ปี รองผู้บังคับหมวดดุริยางค์ทหาร มณฑลทหารบกที่ 210 ซึ่งถูกยิงเสียชีวิตภายในค่ายพระยอดเมืองขวาง ต.กุรุคุ อ.เมือง จ.นครพนม เมื่อคืนวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งคนร้ายอยู่ระหว่างการหลบหนี
โดยในการประชุมครั้งนี้ ได้มีการหารือเร่งรัดเกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวนขยายผล รวมถึงผลการตรวจพิสูจน์หลักฐาน เกี่ยวกับอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ โดยก่อนนี้ มีการเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ เขม่าดินปืน และตรวจหาสารเสพติดกับทหารเพื่อนร่วมงาน จำนวน 23 นาย ในหมวดดุริยางค์ รวมถึงร่องรอยทางนิติวิทยาศาสตร์ ในรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 100 สีบรอนซ์ ทะเบียน คขร 222 สงขลา ซึ่งผู้ตายขับขี่ในวันเกิดเหตุ แต่ยังไม่พบร่องรอยหลักฐานเชื่อมโยงคนร้าย และยังไม่ทราบชนิดอาวุธปืนที่ก่อเหตุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดแนวทางการสืบสวนสอบสวน ทางตำรวจยังไม่ตัดทิ้ง ประเด็นชู้สาว ยิงผิดตัว รวมถึงความขัดแย้งในการทำงาน แต่จากการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกยังพบว่า ทางตำรวจชุดสืบสวนมีการตรวจพบกล้องวงจรปิดบางจุดในบ้านพักทหารหลังหนึ่ง ที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ มีการบันทึกภาพเห็นชายต้องสงสัย 1 คน สวมหมวกนิรภัยปิดบังใบหน้า ขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 100 สีขาว ไม่ทราบทะเบียน แล่นผ่านบ้านพักไปอย่างอย่างรวดเร็ว คาดว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุ
นอกจากนี้ยังมีการตรวจพบหลักฐานเป็นกระป๋องเบียร์ยี่ห้อหนึ่ง จำนวน 4 กระป๋อง และก้นบุหรี่ต่างประเทศ ตกอยู่บริเวณพงหญ้า ห่างจากจุดเกิดเหตุ ประมาณ 30 เมตร ซึ่งทางตำรวจจะได้นำมาเป็นหลักฐาน ตรวจสอบร่องรอยลายนิ้วมือแฝง และดีเอ็นเอ ตามกระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อเทียบเคียงกับผู้ต้องสงสัย
ประเด็นสำคัญที่ตำรวจชุดสืบสวนกำลังเร่งแกะรอย คือ ความขัดแย้งส่วนตัวกับ นายทหารยศจ่านายหนึ่ง ที่เคยมีปัญหาทะเลาะกับลูกน้องที่ทำงานในหมวดดุริยางค์ เกี่ยวกับเรื่องหญิงสาวรายหนึ่งที่เข้ามาพัวพัน กล่าวคือหญิงสาวคนนี้คบซ้อน มีจ่าที่อายุต่างวัยคนหนึ่ง แล้วเกิดปิ๊งกับลูกน้องของหมวดบอล จนเกิดความขัดแย้งระหว่าง ลูกน้องผู้ตายกับจ่ากลายเป็นศึกชิงนาง พันตูอีรุงตุงนังขั้นลงไม้ลงมือ จนมีเรื่องขึ้นแจ้งความกันที่โรงพัก ทำให้หมวดบอลต้องเป็นตัวกลางเข้ามาไกล่เกลี่ย โดยลูกน้องยินยอมจ่ายค่าทำขวัญให้แก่คู่กรณี แต่เรื่องยังไม่จบเพราะจ่าทหารทักมาหาว่ายังไม่ได้เงินค่าทำขวัญ ซึ่งอาจจะเป็นชนวนเหตุของความไม่พอใจ ทั้งนี้ทางตำรวจยังไม่ยืนยัน ต้องรอผลการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน รวมถึงผลการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ จนครบทั้งหมด
แต่ในประเด็นเรื่องความขัดแย้งระหว่างผู้บังคับบัญชามีน้ำหนักน้อย เพราะไม่มีการลงโทษทางวินัยขั้นรุนแรง เป็นเพียงการตรวจสอบให้ผู้ตายรายงานชี้แจง เรื่องการใช้จ่ายน้ำมันไปราชการเท่านั้น และไม่มีการเอาผิดร้ายแรง เพียงลงโทษภาคทัณฑ์ อีกทั้งยังไม่มีผลกระทบต่อตำแหน่งหน้าที่ของผู้บังคับบัญชาหน่วย
ด้าน พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. หลังประชุมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้เปิดเผยว่าวันนี้ลงพื้นที่หารือร่วมกับทุกฝ่าย ทั้งทีมตำรวจ ทหาร ชุดสืบสวน พนักงานสอบสวน กองพิสูจน์หลักฐาน ถือว่าคดีคืบหน้าไปมากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ แต่ยังไม่ตัดทิ้งทุกประเด็นทั้งเรื่องชู้สาว ขัดแย้งส่วนตัว และปัญหาการทำงาน ต้องรอผลการตรวจชันสูตรทางนิติวิทยาศาสตร์มาประกอบทุกด้าน
ส่วนประเด็นที่สื่อมวลชนสอบถาม เรื่องหลักฐานในที่เกิดเหตุ พยานหลักฐานทุกอย่าง ทางตำรวจได้รวบรวมไว้ทุกหมด และมีพยานบุคคลเห็นเหตุการณ์อีก 2 คน ได้นำตัวมาสอบสวนเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ยังทิ้งประเด็นขัดแย้งกับนายทหาร หรือเพื่อนร่วมงาน ที่จะเป็นมูลเหตุทุกอย่างได้รวบรวมไว้ทั้งหมด ขณะที่ทางทหารให้ความร่วมมือทุกด้าน จึงไม่หนักใจอะไร เชื่อว่าเพียงรอสรุปผลการชันสูตร สรุปพยานหลักฐาน จะสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้เร็วที่สุด ส่วนผู้ต้องสงสัยมีทั้งหมด 2-3 คน ซึ่งแหล่งข่าวเผยว่าบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญการยิงลักษณะนี้ ในค่ายพระยอดเมืองขวางมีเพียงไม่กี่คน การคืบคลานเข้าหาตัวคนร้ายกระชั้นชิดเข้าไปทุกขณะ
ล่าสุดผลการผ่าพิสูจน์หัวกระสุนปืนในศพของหมวดบอล ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ขอนแก่น พบหัวกระสุนสีแดงคล้ายกระสุนปืนขนาด 11 มม. เพียงหัวเดียว แต่ผู้ตายถูกยิง 3 นัดซ้อน สร้างความฉงนใจแก่พนักงานสอบสวนเป็นอย่างมาก