กรณี ร.ท.รุ่งเฉลิม  พันธุ์สวัสดิ์ หรือหมวดบอล อายุ 34 ปี รองผู้บังคับหมวดดุริยางค์ทหาร มณฑลทหารบกที่ 210 ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตคารถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นเวฟ 100 สีบรอนซ์ ทะเบียน คขร 222 สงขลา ริมถนนหน้ากองร้อยสนับสนุนการช่วยรบ กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 3 (ร้อย.สสช.ร.3 พัน.3) หมวดยานยนต์ฯ (มว.ยานยนต์ ร.3 พัน.3) ในค่ายพระยอดเมืองขวาง ต.กุรุคุ อ.เมือง จ.นครพนม  เมื่อคืนวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา  และอาศัยความชำนาญพื้นที่ขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 100 ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหลบหนีไปทางเส้นหลังค่าย ซึ่งเป็นช่องทางที่บุคคลภายนอกไม่รู้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว

คืบหน้าวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2564 พิสูจน์หลักฐานจังหวัดนครพนม(พฐ.ฯ) ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ขอนแก่น และสืบสวน บก.ภ.จว.นครพนม นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจจุดที่เกิดเหตุอีกครั้ง โดยใช้เส้นปอพลาสติกตีเส้นยาวเพื่อใช้เครื่องตรวจจับวัตถุโลหะหาปลอกกระสุนปืนหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดี

ทั้งนี้ผู้บังคับบัญชาฯได้แสดงความจริงใจในการเปิดเผยข้อมูล จึงเปิดค่ายพระยอดเมืองขวางให้สื่อมวลชนเข้าไปหารายละเอียดในที่เกิดเหตุด้วย และนำพาไปดูถนนด้านหลังค่ายฯ ที่คาดว่าคนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี ตลอดจนบ้านพักของหมวดบอล โดยมี ร.ท.ภาณุวิชญ์ โพธิ์ไชยแสน หรือหมวดทอม ผู้บังคับหมวดบริการ กองร้อยมณฑลทหารบกที่ 210(มทบ.210)  ช่วยราชการกองกิจการพลเรือน มณฑลทหารบกที่ 210 เป็นผู้นำพาไปตามจุดที่สื่อต้องการ

จากนั้นหมวดทอมได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับหมวดบอล และได้ทำงานร่วมกันไปไหนไปกันระหว่างกองกิจการพลเรือนกับหมวดดุริยางค์ “โดยปกติแล้วผมจะเป็นแม่งาน คอยบอกบอลว่าวันนี้ไปเล่นดนตรีตรงนี้นะตรงนั้นนะ ก็ไม่เคยมีปัญหาเราก็ไปเล่นด้วยกันตลอด น้องเป็นคนนิสัยดีและอัธยาศัยดีมาก แต่โดยปกติแล้วการไปเล่นดนตรีข้างนอกจะต้องขออนุญาตกับผู้บังคับบัญชาก่อน ไม่สามารถออกไปเล่นโดยพละการได้ แต่ทางด้านผู้บังคับบัญชาก็ไม่ได้ปิดกั้นอะไรจนเกินไป หากต้องการรายได้พิเศษอยากจะสอนดนตรีในวันหยุดก็อนุญาตให้สอนได้ ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร แต่จากการที่ภรรยาได้ให้สัมภาษณ์ว่ามีปัญหากับผู้บังคับบัญชาผมก็คิดว่าเป็นไปไม่ได้แน่นอน 100% ผมมั่นใจ” หมวดทอมกล่าวยืนยันอย่างหนักแน่น

 

ระหว่างนั้น จ.ส.อ.สุวรรณศรี วงศ์จันทร์ หรือจ่าหำแหล่ ครูฝึกหน่วยฝึกนักศึกษาวิชาทหาร และครูฝึกทหารใหม่และยุวชนฯ/รองนายกสมาคมกู้ภัยศรีสัตตนครพนม ซึ่งเป็นอีกคนหนึ่งที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่ามีส่วนพัวพันการการเสียชีวิตของหมวดบอล ได้ขออนุญาตผู้บังคับบัญชาใช้สิทธิพาดพิงจากการถูกกล่าวหา โดยเปิดเผยว่า วันที่เกิดเหตุตนได้ออกไปสวนที่อยู่หน้าค่ายพระยอดเมืองขวาง เพื่อสังสรรค์กับเพื่อนขับออฟโรด ตั้งแต่เวลา 18.00 น. จากนั้นก็มีโทรศัพท์มาบอกว่าหมวดบอลถูกยิง ก็รีบเข้ามาดูที่เกิดเหตุ ซึ่งตนมีพยานบุคคลยืนยันได้ว่าเวลานั้นอยู่ที่ไหนกับใคร

ส่วนประเด็นที่ถูกเชื่อมโยงว่าไปขัดแย้งกับหมวดบอลเรื่องผู้หญิงนั้น จ่าหำแหล่เผยว่าคู่กรณีไม่ใช่หมวดบอล ตรงกันข้ามเป็นลูกน้องของผู้ตายต่างหาก ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นมาประมาณ 5-6 เดือน กล่าวคือมีนักศึกษาวิชาทหารฯ(รด.) หญิงคนหนึ่งที่รักเคารพตนเหมือนพ่อ ได้นำหน่อไม้จากบ้านที่อำเภอปลาปาก จ.นครพนม มาฝากตนที่บ้านพัก และกำลังจะกลับบ้าน ระหว่างทางเจอทหารยศจ่านายหนึ่ง ซึ่งประจำอยู่หมวดดุริยางค์ อยู่ในอาการเมากวักมือให้จอด และดึงกุญแจรถ จยย.ไว้ หญิงสาวพยายามขอคืนก็อ้างว่าให้ขับไปส่งที่หมวดดุริยางค์ พอไปถึงก็กระชากแขนลงจากเบาะจนรถ จยย.ล้มคว่ำ บริเวณนั้นมีสารวัตรทหาร(สห.) เข้าประจำเวรยามอยู่ ได้ห้ามปรามเอาไว้ หญิงสาวจึงรีบคว้า จยย.ขับมาหาตน เมื่อไปถึงพบจ่าทหารนายเมาหลับไม่ได้สติ รุ่งเช้าก็ไปลงบันทึกประจำไว้ที่ สภ.เมืองนครพนมไว้เป็นหลักฐาน

ต่อมาหมวดบอลในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชาของทหารนายนี้ ได้ยื่นมือเข้ามาไกล่เกลี่ย ด้วยนิสัยที่มีความอ่อนน้อมถ่อมตัว จึงตกลงจ่ายค่าทำขวัญแก่หญิงสาวเป็นเงิน 5 พันบาท ทั้งนี้มีพยานเป็นนายทหารหลายนายยืนยันได้ กระทั่งครบกำหนดการจ่ายเงินจ่าทหารกลับอ้างนำเงินไปช่วยพี่สาวหมด ตนจึงตอบกลับไปว่าคดีของตนควรสำคัญกว่าธุระของคนอื่น จึงได้โทรศัพท์ไปบอกหมวดบอลว่าลูกน้องผิดสัญญา และหมวดบอลรับปากจะเจรจาทวงถามให้ ตนขอยืนยันว่าถ้าไม่ใช่หมวดบอลมาไกล่เกลี่ยจะไม่ยอมเด็ดขาด เพราะเห็นเขาเป็นคนนิสัยดีเข้ากับทุกคนได้เป็นอย่างดีจึงไม่เอาความ แต่ด้านวินัยจ่าทหารนายนั้นก็ถูกผู้บังคับบัญชาสั่งขัง และเพิ่งออกมาได้ไม่นานนี้เอง

ด้านการที่ผู้บังคับบัญชาถูกภรรยาของผู้ตายกล่าวหาว่า เป็นต้นเหตุการณ์ตายนั้น จ่าหำแหล่กล่าวว่าการที่หมวดบอลนำน้ำมันหลวงไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ โทษขั้นต้องไล่ออกจากราชการ แต่ผู้บังคับบัญชาเห็นว่าเป็นการกระทำผิดครั้งแรก จึงเมตตาให้โอกาสด้วยการภาคทัณฑ์ว่ากล่าวตักเตือน หมวดบอลควรจะขอบคุณท่านมากกว่า