เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"หนุ่มใหญ่" ร้องทุกข์! ถูกปิกอัพขยี้ขาหักกระดูกแตกละเอียด คู่กรณีไม่รับผิดชอบ วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ


13 ก.พ. 2564, 16:21



"หนุ่มใหญ่" ร้องทุกข์! ถูกปิกอัพขยี้ขาหักกระดูกแตกละเอียด คู่กรณีไม่รับผิดชอบ วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ




เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 64  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ที่บ้านเลขที่ 35 หมู่ 12 ต.พยุห์ อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ  น.ส.ธนพร  สีเหลือง อายุ  48  ปี  ได้นำตัวนายเทพกร  สีเหลือง  อายุ  45  ปี  อยู่บ้านเลขที่  61/3  หมู่  12  ต.พยุห์  อ.พยุห์  จ.ศรีสะเกษ  ซึ่งเป็นน้องชาย  เข้าร้องทุกข์กับผู้สื่อข่าวประจำ  จ.ศรีสะเกษ  โดย น.ส.ธนพร  เล่าว่า  เมื่อวันที่  9  พ.ย.63  เวลาประมาณ  09.30  น.ขณะที่นายเทพกรกำลังเดินมาตามถนนบ้านหนองระโย – บ้านหนองไผ่  หมู่  12  ต.พยุห์  เพื่อที่จะกลับบ้าน  ปรากฏว่าได้มีนายสมชาย  กันตรง  อายุ  23  ปี  อยู่บ้านเลขที่  88  หมู่  10  ต.บุสูง อ.วังหิน  จ.ศรีสะเกษ  ขับรถยนต์ปิคอัพ  ยี่ห้ออีซูซุ  สีเทา  ทะเบียน  บก  8286  ศรีสะเกษ  ได้ขับรถมาเบียดเฉี่ยวชนนายเทพกรขณะเดินอยู่ไหล่ทางด้านซ้าย  ทำให้ได้รับบาดเจ็บขาข้างขวาหัก กระดูกแตกละเอียดหลายชิ้น  หลังเกิดเหตุตนได้นำนายเทพกรส่งไปเข้ารักษาพยาบาลที่  รพ.พยุห์  และเนื่องจากอาการหนักมาก แพทย์  รพ.พยุห์ได้ส่งตัวไปรักษาต่อที่  รพ.ศรีสะเกษ 

น.ส.ธนพร  กล่าวต่อไปว่า  ตนต้องดูแลนายเทพกร  น้องชาย  ซึ่งบาดเจ็บสาหัสและไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้  รวมทั้งไม่สามารถประกอบอาชีพทำมาหากินได้นานกว่า  86  วันแล้ว  โดยที่ไม่ได้รับการเหลียวแลแสดงความรับผิดชอบจากคู่กรณีที่เฉี่ยวชนทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่อย่างใด  นายเทพกรต้องพักรักษาตัวที่ รพ.ศรีสะเกษ  โดยแพทย์ต้องทำการผ่าตัดใส่เหล็ก  แต่ว่าขณะนี้อาการยังไม่สมบูรณ์  ทำให้ครอบครัวของนายเทพกรได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก  ตนได้ไปติดตามความคืบหน้าของคดีนี้กับ  ร.ต.อ.ภักดี  ทองอินทร์  รอง  สว.(สอบสวน)  สภ.พยุห์  แต่ว่าคดียังไม่คืบหน้าแต่อย่างใด  โดยพนักงานสอบสวนได้เรียกตัวคู่กรณีเพื่อให้มาเจรจาค่าเสียหายที่ สภ.พยุห์  รวม  2  ครั้ง  แต่ว่าคู่กรณีไม่ยอมมาพบพนักงานสอบสวน  โดยครั้งแรกอ้างว่ารถยนต์เสีย  ไม่สามารถเดินทางมาได้  พอครั้งที่  2  ก็อ้างว่านายเทพกรได้เซ็นยินยอมไม่ติดใจเอาความต่อกันแล้ว  ซึ่งเป็นไปไม่ได้  เนื่องจากว่าคู่กรณีนำเอาหนังสือมาให้เซ็นยินยอมนั้น  นายเทพกรอยู่ในสภาวะสมองยังไม่ปกติสมบูรณ์  อีกทั้งเป็นการขัดต่อความเป็นจริง  เนื่องจากว่านายเทพกรบาดเจ็บสาหัส  ขาข้างขวาหัก  กระดูกแตกละเอียด  และจะมาลงบันทึกตกลงไม่ติดใจเอาความกันได้อย่างไร



นายเทพกร สีเหลือง อายุ 45 ปี  กล่าวว่า  วันเกิดเหตุตนกำลังเดินกลับบ้าน  คู่กรณีขับรถมาชนด้านหลัง  ตนล้มลง  ทำให้ล้อรถเหยียบทับขาข้างขวาหักกระดูกแตกละเอียด ตนไม่ได้เซ็นยินยอมว่าจะไม่ติดใจเอาความกับคู่กรณี  เพราะว่าตนบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้จะไม่ติดใจเอาความได้อย่างไร  ตนขอความเมตตาขอความช่วยเหลือจากทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องด้วย  โดยตนรักษาตัวนานกว่า  3  เดือนแล้ว  จะขอเรียกร้องค่าเสียหาย  500,000 บาทจากคู่กรณีที่ทำให้ตนได้รับบาดเจ็บสาหัสในครั้งนี้

ทางด้านร.ต.อ.ภักดี  ทองอินทร์  รอง สว.(สอบสวน)  สภ.พยุห์  ซึ่งเป็นร้อยเวรเจ้าของคดี  ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า  ในวันเวลาที่เกิดเหตุคือ  วันที่  9  พ.ย.63  เวลาประมาณ  09.30  น.ไม่มีคู่กรณีอุบัติเหตุครั้งนี้มาแจ้งความแต่อย่างใด  และเมื่อวันที่ 11 พ.ย.63  เวลา 11.11 น.นายสมชาย  กันตรง  อายุ  23  ปี  และนายเทพกร  สีเหลือง  อายุ  45  ปี  ได้มาพบกับตนเพื่อเจรจาไกล่เกลี่ย  ต่อมาจากการสอบสวนจึงเชื่อว่าเหตุรถเฉี่ยวชนในครั้งนี้ประกอบกับคำให้การรับสารภาพของนายสมชาย  กันตรง  เชื่อว่าได้ขับรถโดยไม่ใช้ความระมัดระวังตามวิสัยและพฤติการณ์  ซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้นจะต้องมี  แต่หาได้ใช้เพียงพอไม่  จึงได้รับเป็นเลขคดีจราจรที่  64/63  ไว้ทำการสอบสวน  ต่อมาได้ทำการเปรียบเทียบปรับนายสมชาย เป็นเงิน  400  บาท   ตามบันทึกเปรียบเทียบปรับจราจรที่  47/2653  ใบเสร็จรับเงินเล่มที่  085724 เลขที่  6  ต่อมาตนพบว่า นายเทพกรได้รับบาดเจ็บสาหัสมาก  จึงได้เรียกตัวนายสมชายให้มาพบกับนายเทพกรและญาติพี่น้อง  เพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยเรื่องที่เกิดขึ้น แต่เรียกไปแล้ว  2  ครั้ง  นายสมชายก็ไม่มาพบกับผู้เสียหายและพนักงานสอบสวน  ดังนั้น  เมื่อช่วงประมาณต้นเดือน ก.พ.63 ที่ผ่านมา ตนจึงได้แจ้งความดำเนินคดีกับนายสมชาย กันตรง โดยดำเนินคดีในข้อหา  ขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส  ซึ่งนายสมชายได้ให้การปฏิเสธ  ตนจะได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน  เพื่อส่งฟ้องนายสมชาย  กันตรง  ไปยังอัยการ  จ.ศรีสะเกษ  ในช่วงประมาณต้นเดือน  มี.ค.64  นี้  ซึ่งตนได้เร่งดำเนินคดีนี้และพร้อมที่จะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง  2  ฝ่ายอย่างเต็มที่ต่อไป







Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.