เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2564 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. และ โฆษกกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เปิดเผยถึงกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์นำเสนอเรื่อง “สั่งของออนไลน์พึงระวัง เจอคนหัวใสแอบแก้ราคา” ว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้พี่น้องประชาชนส่วนมากเลือกที่จะอยู่บ้านเพื่อลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดดังกล่าว แต่การซื้อสินค้าหรือข้าวของเครื่องใช้ ก็ยังคงเป็นสิ่งที่จำเป็นอยู่ ฉะนั้นทางผู้ขายจึงต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการขายสินค้าโดยให้ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ และมีบริการจัดส่งสินค้าให้ลูกค้าถึงที่ แต่ก็เป็นช่องทางหนึ่งให้มิจฉาชีพเข้ามาเเสวงหาผลประโยชน์ในรูปเเบบต่างๆ อย่างผิดกฎหมาย 

โดยในรูปแบบอย่างหนึ่งของมิจฉาชีพ คือการเพิ่มราคาสินค้า หรือค่าจัดส่งด้วยตนเองในจำนวนที่ไม่มากนักเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต และเก็บเงินส่วนต่างค่าสินค้าเข้ากระเป๋าตัวเอง ซึ่งทำให้ผู้เสียหายบางรายที่ไม่ได้สังเกตราคาสินค้า หลงชำระเงินไปตามยอดที่เหล่ามิจฉาชีพนั้นแจ้งมา ทำให้ได้รับความเสียหายในที่สุด แม้ยอดเงินที่ผู้เสียหายโดนหลอกลวงนั้นจะไม่มาก แต่หากมิจฉาชีพเหล่านั้นกระทำกับผู้เสียหายหลายคน ยอดความเสียหายโดยรวมก็จะมากขึ้นไปเรื่อย ๆ

 
ในทางกฎหมายแล้ว การกระทำลักษณะดังกล่าวนั้นอาจเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกง ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง