เจ้าหน้าที่สายตรวจเมืองพิษณุโลก พร้อมชุดสืบสวนภูธรจังหวัดพิษณุโลก ไล่จับกุมหนุ่มเพชรบูรณ์ ที่ขับรถกระบะแล้วเสพยาบ้า จะมาหาเพื่อนที่พิษณุโลก เจอตำรวจสายตรวจแล้วตกใจขับรถยนต์หนี แล้วชนรถชาวบ้านหลายคัน ก่อนขับรถปีนฟุตบาทจนมุม เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว ค้นในรถพบอาวุธปืน .38 จำนวน 2 กระบอก ยาบ้า 93 เม็ด พร้อมอุปกรณ์การเสพ 

เมื่อเวลา  02.00 น. ของวันที่  14 ก.พ.2564  ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก ได้ปฏิบัติหน้าที่ อยู่บริเวณถนนประชาอุทิศ ต.ในเมืองพิษณุโลก พบรถยนต์กระบะยี่ห้อ โตโยต้า วีโก้  สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน บพ 8423 พิจิตร ได้จอดรถข้างทางและท่าทางมีพิรุธ จึงได้ทำการขอตรวจค้น และคนขับรถยนต์กระบะดังกล่าว ไม่ยอมให้ตรวจค้น ได้ขับรถหนีทันที ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรีบขับตามและขอกำลังเจ้าหน้าที่ไล่ติดตาม โดยรถยนต์ต้องสงสัยดังกล่าว ได้ขับรวดเร็วและพุ่งชนยนต์ของชาวบ้านที่ขับอยู่ด้านหน้าหลายคัน จนกระทั่งไปจนมุมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่บริเวณถนนเลียบทางรถไฟ หน้าร้านเซฟอ็อด ใต้สะพานสูง เนื่องจากรถต้องสงสัยคนนี้ ได้เสียหลักและปีนฟุตบาท ไม่สามารถขับต่อไปได้ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมตัวคนขับได้

จากการตรวจสอบพบว่า คนขับคือนายพิษณุ คงปราโมทย์ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 261 หมู่ 1 ต.ท่าข้าม อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ขับรถมากับแฟนสาว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจค้นภายในรถ พบยาบ้า ในคอนโซนรถ 93 เม็ด พร้อมอุปกรณ์การเสพ อาวุธปืน .38 จำนวน 2 กระบอก ไม่มีทะเบียน โดยมีกระสุนปืนอยู่ในลำเพลิงทั้ง 2 นัด กระบอกแรก อยู่ใต้เบาะคนขับ อีกกระบอกซุกซ่อนที่วางเท้าคนขับ และพบกระสุนปืนในกางเกงยีนส์ในตัวนายพิษณุจำนวน 3 นัด และในซองบุหรี่ อีกจำนวน  26 นัด  เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้ทำการสอบสวน

จากการสอบสวนนายพิษณุ ให้การเบื้องต้นว่า ได้เดินทางมาจากจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อมาหาเพื่อนที่ จ.พิษณุโลก แต่ระหว่างนั้นได้จอดรถอยู่ข้างทาง แต่มีสายตรวจมาขอตรวจค้นรถ จึงตกใจเนื่องจากมีอาวุธปืนและยาบ้านอยู่ในรถ จึงได้ขับรถหนี แต่ก็ถูกจับกุมตัวในที่สุด ยอมรับว่าเสพยาบ้ามาจำนวน  2 เม็ด แล้วขับรถ โดยได้ซื้อยาบ้ามาจากเพื่อนที่กรุงเทพฯ จำนวน 100 เม็ด และเสพไปแล้ว 2 เม็ด ที่เหลือ ได้เก็บไว้ในรถยนต์

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีในข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพาอาวุธปืนไปในเมือง ชุมชน หมู่บ้าน โดยไม่มีเหตุอันควร และ ข้อหาขับรถโดยไม่คำนึงความปลอดภัยและเดือดร้อนของผู้อื่น และจากการสอบประวัติของนายพิษณุ ยังพบว่าเคยต้องคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่น และเพิ่งพ้นโทษมาอีกด้วย