คืบหน้า!! คดีคนร้ายยิง "หมวดบอล" ดับคาค่าย รองเสธ ทบ. แฉพฤติกรรมผู้เสียชีวิต
14 ก.พ. 2564, 15:29
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2564 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานความคืบหน้าคดีคนร้ายก่อเหตุอุกอาจ ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดกระหน่ำยิงในระยะเผาขน ร.ท.รุ่งเฉลิม พันธุ์สวัสดิ์ หรือหมวดบอล อายุ 34 ปี รองผู้บังคับหมวดดุริยางค์ทหาร มณฑลทหารบกที่ 210 เสียชีวิตคารถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นเวฟ 100 สีบรอนซ์ ทะเบียน คขร 222 สงขลา ริมถนนหน้ากองร้อยสนับสนุนการช่วยรบ กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 3 (ร้อย.สสช.ร.3 พัน.3) หมวดยานยนต์ฯ (มว.ยานยนต์ ร.3 พัน.3) ในค่ายพระยอดเมืองขวาง ต.กุรุคุ อ.เมือง จ.นครพนม เมื่อคืนวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ล่าสุดเวลา 09.30 น. ทหารหมวดดุริยางค์ ผู้ใต้บังคับบัญชาของหมวดบอล จำนวน 23 นาย พร้อมครอบครัว ได้นิมนต์พระมาทำพิธีเชิญวิญญาณผู้ตายกลับบ้าน ตรงบริเวณที่เกิดเหตุ ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีก็เสร็จพิธี ซึ่งผู้สื่อข่าวจะขอสัมภาษณ์เกี่ยวกับคดีนี้ ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวว่าสะดวก และได้ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนไปหมดแล้ว
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปยัง สภ.เมืองนครพนม เพื่อติดตามความคืบหน้า ทราบจาก พ.ต.ท.คำดี เฮียงบุญ รอง ผกก.สอบสวนฯ ว่า คืบหน้าไปบางส่วนมากแล้ว โดยวันพรุ่งนี้ (15 ก.พ.) จะนำหลักฐานที่เก็บได้จากที่เกิดเหตุไปส่งสถาบันนิติวิทยาศาตร์ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ขอนแก่น พร้อมจะขอรายละเอียดจากแพทย์ผู้ผ่าศพถึงวิถีกระสุนปืน ส่วนสาเหตุชนวนสังหารโหด ได้ตัดบางประเด็นออกไป เช่น การยิงผิดตัว เพราะคนร้ายขับ จยย. ประกบแล้วตะโกนเรียกชื่อหมวดบอลก่อนกระหน่ำยิง 3 นัดซ้อน
จากแหล่งข่าวเผยว่า ลูกน้องหมวดบอลอาจจะพูดความจริงไม่หมด กรณีที่อ้างว่าทุกคนในหน่วยมีความรักใคร่สามัคคีกันดีนั้น ข้อมูลเชิงลึกพบว่ามีบางคนที่ไม่ค่อยจะพอใจหมวดบอลอยู่เหมือนกัน กล่าวคือถ้ามีการรับงานเล่นดนตรี รายได้จะมาวางเป็นกองกลางแล้วเฉลี่ยให้ได้เท่าๆ กัน แต่มีบางคนออกไปรับงานคนเดียว รายได้ควรที่จะตกเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว กลับต้องนำมาเฉลี่ยให้คนอื่นที่ไม่ได้ออกไปทำงาน อย่างนี้เป็นต้น
นอกจากนี้หมวดบอลมีปัญหาเกี่ยวกับบ้านที่จังหวัดเพชรบุรี กำลังจะถูกธนาคารยึด จำเป็นต้องหาเงินสักก้อนไปขอประนีประนอมผ่อนจ่าย แหล่งข่าวเล่าว่าหมวดบอลได้ไปยืมเงินทหารในค่ายจำนวนหลักแสน และยังไม่มีการชำระหนี้ ซึ่งเรื่องนี้คนใกล้ชิดหมวดบอลรู้ดีกว่าใคร
ขณะเดียวกัน พ.อ.สุขสันต์ พลหล้า รองเสนาธิการ มณฑลทหารบกที่ 210 ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า กรณีนางกณิศฐ์ฐา พันธุ์สวัสดิ์ หรือจ๋า อายุ 32 ปี ภรรยาของผู้ตายออกมาให้การในตอนแรกว่า ประเด็นการตายเกิดจากการขัดแย้งกับผู้บังคับบัญชา ในหลักความเป็นจริงหมวดบอลกระทำความผิดที่นำน้ำมันหลวงไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ถ้าผู้บังคับบัญชาจะลงโทษถึงขั้นไล่ออกจากราชการ แต่ลงโทษเพียงภาคทัณฑ์ว่ากล่าวตักเตือนถือเป็นโทษที่เบาที่สุด
ส่วนที่บอกว่าขัดแย้งกับผู้บังคับบัญชาทั้งผัวทั้งเมีย คงต้องกลับไปถามภรรยาเขาดูว่า ที่ผ่านมาสร้างวีรกรรมอะไรไว้บ้าง ระหว่างทำงานอยู่กำลังพลมีเจ้าหน้าที่จากกองทัพบกโทรศัพท์มาสอบถามก็ถูกตะตอก เขาจึงมีหนังสือร้องเรียนมาถึง มทบ.210 ก็เรียกมาให้ปรับปรุงตัว กลับถูกขึ้นเฟซบุ๊กขู่ฆ่าผู้บังคับบัญชา ก็ได้แจ้งความไว้เป็นหลักฐานแล้ว และได้จัดเวรยามรักษาความปลอดภัยที่บริเวณบ้านพักผู้บังคับบัญชา
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีที่คนร้ายจงใจยิงในค่ายทหาร เพื่อโยนความผิดให้คู่ขัดแย้งหรือไม่ รองเสธฯมทบ.210 กล่าวว่าเป็นการยิงเพื่อประจาน และไม่เกี่ยวกับผู้บังคับบัญชา ส่วนไปมีปัญหากับใครนั้นคนใกล้ชิดหมวดบอลรู้ดี