วันนี้ ( 15 ก.พ.64 ) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้แถลงหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนท์ โดยระบุว่า ในส่วนของวัคซีนป้องโควิด-19 ล็อตแรกจะมาถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์แน่นอน 2 แสนโดส ส่วนล็อตที่ 2 ทั้งหมด 8 แสนโดส และล็อตที่ 3 อีก 1 ล้านโดส โดยพิจารณาลำดับการฉีดตามหลักการ และเน้นย้ำพื้นที่เสี่ยงเป็นหลักอีกด้วย นอกจากบุคลากรการแพทย์ ก็จะมีประชาชนกลุ่มเสี่ยง รวมถึงพื้นที่ท่องเที่ยว ส่วนหนึ่งที่ได้รับการฉีดไปแล้วก็จะปลอดภัยระดับหนึ่ง ส่วนประชาชนส่วนที่ยังไม่ได้รับวัคซีนก็ขอให้รอ ตามจำนวนวัคซีนที่ได้รับมา ขอให้ทุกคนยังปฏิบัติตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุขต่อไปโดยการสวมหน้ากาก มีการเว้นระยะห่างทางสังคม 

โดยพลเอกประยุทธ์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในส่วนของวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าในเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2564 จะได้รับประมาณ 26 ล้านโดส และอีก 35 ล้านโดสก็จะตามมา โดยจะมีการวางแผนกำหนดเป้าหมายการฉีดให้สอดคล้องกับจำนวนวัคซีนที่ได้รับ โดยองค์การอาหารและยา (อย.) ได้ขึ้นทะเบียน "แอสตร้าเซนเนก้า" เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในส่วนของ "ซิโนแวค" อยู่ในระหว่างการดำเนินการ ยืนยันว่าทันก่อนวัคซีนล็อตแรกจะเข้ามา ขณะที่ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน อยู่ในระหว่างขั้นตอนพิจารณาเอกสาร ขณะที่ในส่วนของ โมเดอร์นา และไฟเซอร์ ได้มีการพูดคุยแต่ยังไม่ได้มีการส่งเอกสารมา แต่อย่างไรก็ตามประเทศไทยพร้อม หากมีความร่วมมือกันได้ตรงนี้ ยืนยันไม่มีการปิดกั้นใดๆทั้งสิ้น 

อย่างไรก็ตามการฉีดวัคซีนต้องฉีดตามแผนของรัฐบาลเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นภาคเอกชน หรือ โรงพยาบาลเอกชน สั่งวัคซีนเข้ามาได้ แต่ต้องอยู่ในแผนการฉีดของรัฐ อันนี้เป็นทางเลือกสำหรับประชาชนที่มีรายได้สูง หรือ ผู้ที่ต้องการฉีดวัคซีนให้เร็วขึ้น แต่อย่างไรก็ตามย้ำว่าต้องเป็นไปตามแผนการฉีดวัคซีนของรัฐ เพื่อความปลอดภัยของทุกคนเป็นหลัก