แพทย์เผย โควิด-19 ในไทยเป็นสายพันธุ์จากพม่า - เฝ้าจับตาการกลายพันธุ์ในประเทศ
15 ก.พ. 2564, 17:15
วันนี้ (15 ก.พ.64) รศ.นพ.โอภาส พุทธเจริญ หัวหน้าศูนย์โรคอุบัติใหม่ทางคลินิก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เปิดเผยกรณีสายพันธุ์โควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดในประเทศไทยขณะนี้ มีทั้งหมด 3 สายพันธ์ด้วยกัน ได้แก่
1.สายพันธุ์ B.1.1.7 เป็นสายพันธุ์ที่กำลังระบาดอย่างหนักในประเทศอังกฤษ รวมทั้งแพร่ระบาดไปยังสหรัฐอเมริกาและยุโรป เป็นการกลายพันธุ์ที่ทำให้ไวรัสสามารถจับกับผิวเซลล์ของมนุษย์ได้ดียิ่งขึ้น แบ่งตัวได้ดีขึ้น จึงทำให้มีเชื้อไวรัสในโพรงจมูกมาก ติดเชื้อได้ง่ายขึ้น รวมทั้งอาจจะสัมพันธ์กับอาการป่วยและเสียชีวิตที่มากกว่าไวรัสสายพันธุ์ปกติเล็กน้อย
2.สายพันธุ์ B.1.351 เป็นไวรัสกลายพันธุ์ที่ระบาดในแอฟริกาและเซาท์แอฟริกา ไวรัสที่กลายพันธุ์จะสามารถจับกับเซลล์มนุษย์ได้ดี หลบหลีกภูมิคุ้มกันที่เกิดจากการฉีดวัคซีนได้ ทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนลดลงอย่างเห็นได้ชัด
3.สายพันธุ์ P.1 เป็นไวรัสกลายพันธุ์ที่ระบาดในบราซิล มีลักษณะคล้ายกับไวรัสกลายพันธุ์ในแอฟริกา
โดยปกติแล้วไวรัสจะมีการกลายพันธุ์ตลอดเวลา เมื่อมีการแบ่งตัวในคนจะมีการกลายพันธุ์ไปทีละน้อย ในการระบาดระลอกแรก มีข้อมูลว่าไวรัสกลายพันธุ์ทุกสองเดือน ส่วนการระบาดระลอกใหม่ยังไม่พบว่ามีการกลายพันธุ์ และสายพันธุ์ที่ระบาดในประเทศไทย ยังคงเป็นสายพันธุ์ที่มาจากเมียนมา
แต่ที่น่าเป็นห่วง คือ หากไทยยังไม่สามารถยับยั้งการแพร่ระบาดจากคนสู่คนได้ ในอนาคต ไวรัสตัวนี้อาจมีโอกาสกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ในประเทศไทยเอง อาจทำให้คุณสมบัติของไวรัสเปลี่ยนไป ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดขณะนี้ คือ ยับยั้งไม่ให้เกิดการระบาด ด้วยการสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ และการฉีดวัคซีน
อย่างไรก็ตาม 3 สายพันธุ์จากต่างประเทศที่มีอยู่ตอนนี้พบว่า มีคุณสมบัติที่ทำให้เกิดการแพร่เชื้อได้ง่ายกว่าเดิม โดยในส่วนของสายพันธุ์ที่ระบาดในอังกฤษ พบว่ามีความสัมพันธ์กับการเพิ่มอัตราการป่วยและการเสียชีวิตที่มากขึ้น ส่วนสายพันธุ์แอฟริกา มีผลทำให้การตอบสนองต่อวัคซีนเกือบทุกประเภทลดลง