ชาวบ้านคงแห่ขุดดินหาหินประหลาด ขณะชาวบ้านเผยเคยเจออาถรรพ์จากถ้ำใกล้จุดพบหินประหลาด กรณีชาวบ้านทับไทร หมู่ 10 ต.พรุดินนา อ.คลองท่อม จ.กระบี่ แตกตื่นพากันไปขุดหาหินประหลาด ในสวนยางของนายประเสริฐ จันทร์ส่องแสง สมาชิก อบต.พรุดินนา โดยชาวบ้านเชื่อกันว่าหินประหลาดดังกล่าว เป็นเหล็กไหลชนิดหนึ่ง ความคืบหน้าเรื่องนี้

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 15 ก.พ.64 นายนิวัฒน์ วัฒนยมนาพร กรรมการที่ปรึกษาหน่วยอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและศิลปกรรมท้องถิ่น จ.กระบี่ เดินทางไปตรวจสอบจุดที่พบหินดังกล่าว โดยไปพบกับนายประเสริฐ จันทร์ส่องแสง เจ้าของสวนยาง ที่บ้านเลขที่ 3/5 หมู่ 10 บ้านทับไทร ต.พรุดินนา เพื่อขอดูหินปริศนาที่พบ และชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นเหล็กไหล โดยหินที่นายประเสริฐ นำออกมาให้ดู พบว่ามีหลากหลายขนาด บางก้อน มีสภาพผิวเรียบสะท้อนแสงแวววาว บางก้อนก็ฝังอยู่ในเนื้อหินธรรมชาติ โดยมีก้อนหนึ่งพบว่ามีสภาพคล้ายถูกตัดออก แต่ชาวบ้านยืนยันว่าเป็นสภาพที่พบตามธรรมชาติ พบว่ามีหน้าตัดเรียบสวยงาม หน้าตัดของหินสะท้อนเงาไม่ต่างจากกระจก จากนั้นจึงไปตรวจสอบที่จุดพบหินอีกครั้ง ก็ยังพบว่ามีชาวบ้านมาขุดหาหินกันไม่ขาดสาย นอกจากนี้เจ้าของที่ดิน ยังพานายนิวัฒน์ ไปตรวจสอบจุดที่ห่างกันประมาณ 50 เมตร เป็นโพรงถ้ำในสวนยาง ที่ชาวบ้านเชื่อกันว่าในถ้ำอาจจะมีหินลักษณะเดียวกันอีก แต่ไม่มีชาวบ้านกล้าเข้าไปในภายในถ้ำดังกล่าว เพราะมีงูจงอาง หรืองูบองหลาตัวใหญ่อาศัยอยู่ ซึ่งชาวบ้านแถวนั้นเชื่อว่าเป็นงูเจ้าที่

หลังตรวจสอบในเบื้องต้น นายนิวัฒน์ ให้ความเห็นว่า โดยส่วนตัวคาดว่า อาจจะเป็นแก้วที่ผ่านการหลอมละลาย อย่างไรก็ตามตนจะนำตัวอย่างที่เจ้าของที่ดินมอบให้ ส่งไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบอีกครั้งว่าวัตถุที่พบ เป็นอะไรกันแน่ แต่จะเป็นเศษอุกกาบาตหรือไม่ โดยส่วนตัวเชื่อว่าไม่ใช่ เพราะชิ้นส่วนอุกกาบาตจะต้องมีส่วนผสมของเหล็ก ซึ่งตนเคยเห็นเศษอุกกาบาตของจริงมาแล้ว แต่วัตถุที่พบนี้ยังไม่เคยเห็นมาก่อน ด้านนายพาส คงรักษ์ อายุ 68 ปี ชาวบ้านอีกรายที่อยู่ใกล้จุดพบหินประหลาด เล่าด้วยว่า หินที่ชาวบ้านพบตนเชื่อว่าน่าจะเป็นหินที่เจ้าที่ตั้งใจจะให้ชาวบ้าน เพราะก่อนนี้ไม่เคยเจอหินลักษณะดังกล่าว ในอดีตที่ผ่านมาตนเองเคยเจอเหตุการณ์แปลกมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อประมาณ 40 ปีก่อน ตนไปเดินเที่ยวในสวนยางดังกล่าว และไปเจอโพรงถ้ำที่ไปสำรวจกันวันนี้ แต่เป็นโพรงถ้ำเล็ก ๆ ตนไปเจอเข้ากับหินก้อนหนึ่งรูปร่างคล้ายคนนั่งยอง ๆ โดยเชื่อว่าภายในหินดังกล่าว น่าจะมีแร่อยู่ จึงเก็บกลับมาที่บ้าน พอตกตอนค่ำ ก็มีอาการแปลก ๆ คล้ายคนกำลังจะเข้าทรง ทั้งปวดท้อง คลื่นไส้ จนต้องเรียกให้เพื่อนบ้านมาอยู่เป็นเพื่อนจนรุ่งเช้า จึงไปปรึกษากับคนเฒ่า คนแก่ และผู้ที่มีวิชาอาคม ก็แนะนำตนว่า ตนไปเอาของสิ่งหนึ่งของเจ้าที่มา ให้ตนเอาไปคืน ครั้งแรกตนให้พ่อตาเอาไปคืนที่ถ้ำ แต่ลูกสาวตนซึ่งยังเล็กในตอนนั้นร้องทั้งคืน ทำให้ตอนเช้าตนต้องไปขอขมาและนำหินดังกล่าวกลับไปตั้งที่เดิม ทุกอย่างจึงกลับมาปกติ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่แปลก เหมือนเจ้าที่เจ้าทางมาทวงเอาของที่เราเอาให้เอาไปคืน จึงเชื่อว่าที่ดินดังกล่าว น่าจะมีเจ้าที่เจ้าทางอยู่