ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่73/1 หมู่ 2 ต.คุ้งกระถิน อ.เมือง จ.ราชบุรี เพื่อพบกลับ นางสาวลัดดา อ่อนน้อม อายุ 46 ปี และนายวิรัช ฤทัยธนานนท์ อายุ 44 ปี สองผัวเมีย หลังทราบข่าว ทั้งคู่เป็นผู้ป่วยโรคร้าย และเคราะห์ซ้ำยังประสบอุบัติเหตุ จนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ แถมยังมีอาการหลงๆลืมๆ หลังเข้ารับการรักษาได้หนึ่งเดือนทั้งคู่มีการอาการแทรกซ้อน หลายโรครุมเร้า ทั้งแขนขาอ่อนแรง มินำซ้ำเคราะห์ซ้ำกรรมซัด บ้านที่อาศัยอยู่สภาพบ้านไม้ยกพื้นมีใต้ถุนสูง ทุกวันนี้หลังคาสังกะสีรั่ว ทั้่งตัวบ้านผุพังจะพังมิพังแล่ สภาพไม่มั่นคงต่อการอยู่อาศัย จึงทำให้ 2 ผัวเมียต้องมาอาศัยอยู่ใต้ถุนบ้านแทน ถึงหน้าฝนตกหนักไม่สามารถอยู่อาศัยได้ ทำให้ครอบครัวที่เคยอยู่อาศัยด้วยกัน 7 คน ต้องแยกย้ายไปอยู่ที่อื่น รอเพียงหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านให้

นางสาววีราภรณ์ ฤทัยธนานนท์ อายุ 20 ปี ลูกสาวคนเล็ก ได้กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ตนและ พ่อ แม่ พี่สาว และหลาน รวม 7 คน เคยอยู่อาศัยในบ้านหลังนี้ด้วยกันอย่างมีความสุข อยู่ด้วยกันอย่างพร้อมหน้า โดยพ่อกับแม่ของตนมีอาชีพเก็บของเก่า ส่วนตนกับพี่สาวทำงานรับจ้างทั่วไป สามารถช่วยกันหาเลี้ยงครอบครัวได้ จนเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ครอบครัวกับมารู้ข่าวร้ายว่า พ่อกับแม่ของตนป่วยเป็นโรคร้าย ทำให้อะไรเริ่มแย่ลง แต่ทุกคนก็พยายามสู้ดิ้นร้นเพื่อหาเงินมารักษาพ่อกับแม่ จนมาเมื่อ 1 ปีที่แล้ว พ่อกับแม่ของตนเกิดประสบอุบัติเหตุทางถนน ทำให้ต้องเสียเงินที่มีอยู่กับการรักษา แต่กำลังทำให้พ่อกับแม่ของตนช่วยเหลือตัวเองได้ แถมยังมีอาการหลงๆลืมๆ หลังการรักษายังมีอาการอาการแทรกซ้อน หลายโรครุมเร้า ทั้งแขนขาอ่อนแรง ที่สำคัญจากการเกิดอุบัติในครั้งนั้น ทำให้ครอบครัวของตนต้องผ่อนชำระหนี้ในค่ารักษาและค่าเสียหายอีก 5 หมื่นบาท 

 

นางสาววีราภรณ์ เล่าต่อว่า แถมบ้านที่เคยอาศัยอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข กลับไม่สามารถอาศัยอยู่ได้เนื่องจากบ้านเป็นบ้านไม้ยกสูง ถูกปลวกกัดกินจะผุพังไปทั้งหลัง หลังคาสังกะสีรั่วทั้งหลัง จนไม่สามารถพักอาศัยได้อีกต่อไป ทำให้พ่อกับแม่และหลานของตนต้องลงมานอนพักใต้ถุนบ้านแทน แถมห้องน้ำก็พังจะต้องหาผ้าใบเก่ามากั้นเป็นห้องน้ำแทน ส่วนตนกับพี่สาวต้องไปหาที่อยู่พักอาศัยที่อื่นใกล้ที่ทำงาน เพื่อหาเงินมาช่วยรักษาพ่อกับแม่ และส่งหลานเรียนหนังสือ ทุกวันนี้ทางพ่อกับแม่ ไม่สามารถทำงานอะไรได้ มีเพียงเบี้ยยังชีพผู้พิการและบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ อยู่ด้วยความยากลำบาก ส่วนตนกับพี่สาวก็หาเงินด้วยความลำบากเพราะอยู่ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 จึงอยากวอนผู้ใจบุญให้การช่วยเหลือครอบครัวตน  "ทุกวันนี้ตนไม่ได้คิดมุ่งหวังอะไร เพียงแต่อยากให้ครอบครัวของตนได้กับมาอยู่ด้วยกันอย่างพร้อมหน้า อย่างที่เคยเป็น"  นางสาววีราภรณ์ กล่าวทิ้งท้าย...