"ผู้สูงอายุ" แห่ลงทะเบียนเราชนะวันที่สอง แน่นธนาคารกรุงไทย อ.วังทอง
16 ก.พ. 2564, 12:26
วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเปิดบริการลงทะเบียนโครงการเราชนะให้กับผู้เปราะบางทางสังคม ผู้ไม่มีสมาร์ทโฟน วันนี้ธนาคารกรุงไทย สำนักงานเขตจังหวัดพิษณุโลก จัดเจ้าหน้าที่ออกให้บริการณศูนย์ประสานแผนพัฒนาอำเภอวังทองและศูนย์ประสานแผนพัฒนาอำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก ที่ศูนย์ประสานแผนพัฒนาอำเภอวังทองจั งหวัดพิษณุโลก บรรยากาศการมาใช้บริการของผู้ไม่มีสมาร์ทโฟนยังคงหนาแน่น แม้ว่ารัฐบาลจะประกาศขยายระยะเวลาการลงทะเบียนไปอีกจนถึงวันที่ 5 มีนาคมจากเดิมวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 แต่วันนี้ ประชาชนชาวอำเภอวังทองซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ต่างมารอคอยใช้บริการจากเจ้าหน้าที่อย่างหนาแน่นตั้งแต่เช้า
อำเภอวังทอง โดยนายบุญเหลือ บารมี นายอำเภอวังทอง และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขตจังหวัดพิษณุโลกธนาคารกรุงไทย ได้จัดเจ้าเก้าอี้เตรียมไว้ให้กับประชาชนบนชั้น 2 พร้อมเปิดเครื่องปรับอากาศอย่างเต็มที่ ผู้มาใช้บริการมารอคอยกันตั้งแต่ 06.00 นถึง 08.00 นจนแน่นเต็มความจุเก้าอี้ประมาณ 600-700 คน เจ้าหน้าที่ได้ประชาสัมพันธ์ ให้ผู้ใช้บริการทราบว่า ไม่ต้องรีบร้อนมาลงทะเบียนเพราะมีการขยายระยะเวลาลงทะเบียนออกไปอีกจนถึงวันที่ 5 มีนาคม 2564 สำหรับการบริการวันนี้เป็นบริการเคลื่อนที่ ณ ศูนย์ประสานแผนพัฒนาอำเภอวังทอง ผู้มาใช้บริการทุกคนจะได้รับการ ลงทะเบียนรวมถึงตรวจสอบสิทธิ์ให้ จนหมดสิ้น แม้ว่าจะ ใช้เวลานานเท่าไร เจ้าหน้าที่ก็จะทำอย่างเต็มที่ ซึ่งเมื่อวานนี้ได้ออกไปบริการที่อำเภอบางระกำ เจ้าหน้าที่บริการจนถึงเวลาประมาณ 18.00 น.
สำหรับวันนี้เจ้าหน้าที่ได้บริการจัดโต๊ะลงทะเบียนให้ประชาชนจำนวน 4 โต๊ะทั้งการตรวจสอบสิทธิ์ โครงการเอาชนะและลงทะเบียนโครงการเราชนะ พร้อมจัดลำดับคิวตามลำดับผู้มาก่อนหลัง แจกเอกสารให้ประชาชนได้กรอกข้อมูลของตนเองก่อนเข้าใช้บริการ โดยแต่ละรายใช้เวลาประมาณ 5-10 นาที บรรยากาศการลงทะเบียนวันนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย แม้ว่าผู้ใช้บริการส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ แต่เจ้าหน้าที่ก็คอยอำนวยความสะดวกให้ตลอดเวลา
ผู้สูงอายุจากตำบลวังนกแอ่น อำเภอวังทอง เปิดเผยว่า ออกจากบ้านมาตั้งแต่เวลาประมาณ 06:00 น มาพร้อมกับรถส่งนักเรียน มาถึงก็ขึ้นมานั่งคอย โครงการเราชนะเป็นโครงการที่ดี ช่วยเรื่องค่าครองชีพได้อย่างมาก แต่อยากให้ภาครัฐจัดวิธีการลงทะเบียนให้สะดวกกว่านี้ เพราะส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ที่ต้องเดินทางมาตั้งแต่เช้า น่าจะมีการจัดบริการตามฐานข้อมูลของบัตรประชาชน หรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กระจายไปตามหมู่บ้าน โดยให้ผู้ใหญ่บ้านหรือผู้นำท้องที่ ช่วยเหลือลูกบ้าน