เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น.วันที่ 16 ก.พ.64 ร.ต.อ.มานิตย์  มณฑิรา  รอง สวป. ขณะปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวร 20 สภ.สวี จ.ชุมพร ได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนแท่งแบริเออร์วางอยู่บนถนนสายเอเชีย 41 บริเวณจุดกลับรถหน้าโรงงานปาล์มธรรมชาติ ระหว่างหลัก กม.ที่ 26-27 ตำบลครน อ.สวี จ.ชุมพร ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จึงพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยอาสากู้ภัยมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ เร่งตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุใกล้จุดกลับรถฝั่งขาขึ้นบนถนนสายเอเชีย 41 พบรถยนต์กระบะยี่ห้อเชฟโรเลต โคโรราโด ตอนครึ่ง สีฟ้า ทะเบียน บท 1358 ชุมพร พุ่งชนแท่งแบริเออร์จำนวน 9 อัน กระจายเกลื่อนทำให้รถเสียหลักพลิกตะแคงสภาพพังยับทั้งคันชิ้นส่วนรถกระจายเต็มถนน  พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายคือนายทรงพล  ไล่ตระกูล อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56 หมู่ 2 ตำบลสวี อ.สวี จ.ชุมพร ได้รับบาดเจ็บบริเวณส้นเท้าขวายาวประมาณ 3 ซม.มีรอยลอยถลอกแขนขวาและลำตัวเล็กน้อย

จากการสอบถามทราบว่านายทรงพล คนเจ็บ ได้ขับรถกลับจากที่ทำงานในพื้นที่ตำบลทุ่งระยะมุ่งหน้ากลับบ้านพักที่ตำบลวิสัยใต้เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุมืดมองไม่เห็นแท่งแบริเออร์ที่บริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างวางเรียงรายพร้อมกรวยยางปิดกั้นถนนบีบให้เดินรถได้เพียงช่องทางเดียว บริเวณจุดกลับรถโดยได้ติดตั้งสัญญาณไฟไว้จำนวนหนึ่ง  แต่หักหลบไม่ทันจึงพุ่งชนรวดเดียว 9 แท่ง ทำให้รถเสียหลักพลิกหลายตลบเสียหายพังยับทั้งคัน แต่โชคดีที่คนขับบาดเจ็บเล็กน้อย  อีกทั้งชาวบ้านเผยว่าไฟฟ้าส่องสว่างที่ติดตั้งริมถนนจุดกลับรถดังกล่าวดับมืดใช้การไม่ได้มานานกว่า 2 เดือนแล้วด้วย

ตรวจสอบพบว่ากรมทางหลวงกำลังดำเนินการโครงการก่อสร้างยกระดับพื้นผิวการจราจรให้สูงขึ้นเพื่อป้องกันน้ำไหลหลากท่วมบนถนนสายเอเซีย 41 ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กม.โดยมีบริษัทผู้รับเหมาแห่งหนึ่งเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง อย่างไรก็ตามด้านพนักงานสอบสวน สภ.สวี กำลังอยู่ในระหว่างสอบสอบเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป//ประสิทธิ์ ลีฬหคุณากร /ชุมพร