รวบตัว ! "3ผู้ต้องหา" แก๊งค์ลักลอบตัดสายเคเบิ้ล สารภาพเผาเอาทองแดงขาย ซื้อยาบ้ามาปาร์ตี้
17 ก.พ. 2564, 08:51
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องสืบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม พล.ต.ต.ดิเรก จิตอร่าม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วย พ.ต.อ.อิทธิเดช สุนทร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม พ.ต.ท.ไกรทอง ชัยสิงห์ รอง ผกก.สส. สภ.เมืองมหาสารคาม นายวัฒนา สอาดดี โทรศัพท์จังหวัดมหาสารคาม เจ้าหน้าที่บริษัทด้านโทรคมนาคมและเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม ร่วมกันจับกุม 3 ผู้ต้องหา ประกอบด้วย นายวีระศักดิ์ ตันเสดี อายุ 32 ปี นายกิตติพงษ์ คงสัมพันธ์ อายุ 25 ปี และนางสาวเดือน จรจัด อายุ 47 ปี พร้อมด้วยของกลาง จำพวกคีมตัดสายไฟ คีมตัดปากเฉียง กรรไกรตัดกิ่ง ไขควง เหล็กเส้นลายเกลียว เหล็กเส้นผิวเรียบ สายเคเบิ้ลสีดำ กระสอบปุ๋ย เป็นต้น
พล.ต.ต.ดิเรก จิตอร่าม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า สืบเนื่องจากในช่วงตั้งแต่เดือนมกราคมต่อเนื่องเดือนกุมภาพันธ์ บริษัททีโอที ได้ถูกคนร้ายลักลอบตัดสายเคเบิ้ลโทรศัพท์มากกว่า 10 ครั้ง โดยตระเวนลักทรัพย์ใน 4 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมืองมหาสารคาม กันทรวิชัย บรบือ และอำเภอโกสุมพิสัย ทำให้ได้รับความเสียหาย เฉพาะที่อำเภอเมืองมหาสารคาม มูลค่าความเสียหายกว่า 320,000 บาท จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนประสานกับเจ้าหน้าที่บริษัททีโอที นำเครื่องแจ้งเตือน หรือเครื่อง Alarm มาติดตั้งที่ห้องสืบสวน เมื่อมีการลักลอบตัดสายเคเบิ้ล เครื่องจะส่งสัญญาณแจ้งเตือนทันที
โดยเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา เครื่อง Alarm ได้แจ้งเตือนพบการลักลอบตัดสายเคเบิ้ลบริเวณใกล้กับโรงน้ำแข็งน่ำเทียน ถนนสายมหาสารคาม-กมลาไสย จึงได้รีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ พบชายวัยรุ่น 2 คน มีท่าทางพิรุธ จึงได้แสดงตัวขอตรวจค้น พบสายเคเบิ้ลที่ตัดมาแล้วซุกซ่อนอยู่ในถุงปุ๋ย โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่าได้ก่อเหตุจริง และได้นำสายเคเบิ้ลที่ตัดมาไปให้กับ ผู้ต้องหาหญิงอีกรายซึ่งเป็นภรรยาของหนึ่งในสองผู้ต้องหา นำไปปลอกและเผา เพื่อเตรียมส่งขายให้ร้านรับซื้อของเก่า ราคากิโลกรัมละ 145 บาท และเมื่อได้เงินมาก็จะนำมาใช้จ่ายและซื้อยาเสพติดมาเสพร่วมกัน โดยผู้ต้องหาทั้ง 3 รายถูกแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำไปชี้จุดที่ก่อเหตุ เพื่อประกอบสำนวนคดี และนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป