วันนี้(19 ก.พ. 64) พระเมธีธรรมาจารย์ (เจ้าคุณประสาร) รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้ชี้แจงถึงกรณีที่มีข่าวลือว่า ได้รับเชื้อโควิด-19 จากกิจนิมนต์ โดยมีรายละเอียดดังนี้

ตามที่อาตมาได้รับนิมนต์ให้ไปเจริญพระพุทธมนต์ ฉันภัตตาหารเพล ที่วัดป่าวังน้ำเย็น ต.เกิ้ง อ.เมือง จ.มหาสารคาม เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์  2564 นั้น

ภายหลังจากงานวันนั้นแล้วก็ปรากฎว่ามีข่าวลือมากมายในหลายเรื่องหลายประเด็น โดยเฉพาะประเด็นหลักคือมีผู้ชายคนหนึ่งมาร่วมงานติดโควิด-19 ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลในเมืองขอนแก่น

ข่าวนี้ทำให้คนที่ไปร่วมงานและประชาคมชาวมหาสารคามตื่นตระหนกกันมากและมีการเรียกร้องให้เปิดเผยไทม์ไลน์ของผู้ป่วยรายนี้ ศูนย์โควิด-19 มหาสารคาม ได้เปิดเผยรายละเอียดออกมาปรากฎว่าผู้ชายท่านนี้ไม่ได้ไปร่วมงานที่วัดป่าวังน้ำเย็นแต่อย่างใด

จากนั้นก็มีประเด็นเพิ่มเติมว่า มีสุภาพสตรีท่านหนึ่งที่ปรากฎตัวอยู่ร่วมงานในวันนั้นเป็นภรรยาของผู้ป่วยโควิด-19  ที่กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น สามีก็ติดแล้ว ภรรยาก็ต้องอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูง ทำให้ผู้คนอยากรู้และขอให้เปิดเผยรายละเอียดให้มากกว่านั้นเพราะเรื่องนี้มีผลกระทบต่อสังคมในวงกว้าง

เบื้องต้นทราบว่าสุภาพสตรีท่านนี้ผ่านการตรวจมาแล้ว 2 ครั้งไม่พบว่ามีการติดเชื้อแต่อย่างใด แต่เมื่อไปตรวจอีกครั้งเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 64 ภายหลังไปร่วมงานที่วัดสามวัน แพทย์ได้วินิจฉัยว่า ติดเชื้อโควิด-19 ต้องเข้ารับการรักษาโดยด่วน ตามไทม์ไลน์ที่ศูนย์โควิด-19 มหาสารคาม ได้เปิดเผยออกมาสู่สาธารณชน

เมื่อผลปรากฎว่าสุภาพสตรีท่านนี้ที่ไปร่วมงานในวัดติดโควิด-19 จึงทำให้ต้องดำเนินการอย่างเคร่งครัดต่อผู้ที่ไปร่วมงานในวันนั้นทุกคนไม่เว้นแม้แต่พระสงฆ์เถระผู้ใหญ่ที่ไปเจริญพระพุทธมนต์ ฉันเพล

โดยศูนย์โควิด-19 มหาสารคาม ได้ทำงานอย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ คณะแพทย์และทีมงานผู้รับผิดชอบได้เข้าไปตรวจดูรายละเอียดแล้วปรากฎว่ามีผู้เสี่ยงสูงประมาณ 13 ท่าน นอกนั้นถือว่าเสี่ยงต่ำ สาธารณสุขจังหวัดมหาสารคามจึงออกประกาศขอความร่วมมือกับทุกรูป ทุกคนให้ไปตรวจและปฎิบัติตนตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดนี่สำหรับคนนอกพื้นที่ ส่วนคนในพื้นที่มหาสารคามนั้นจะมีหน่วยเฉพาะกิจออกตรวจเชิงรุกไปตรวจให้ในสถานที่ๆกำหนดไว้