จนท. ตรวจสอบเชิงเขาภูนั่งยอง หลังชาวบ้านแจ้งมีกลุ่มคนงานสร้างที่พักบุกรุกป่า
19 ก.พ. 2564, 14:47
เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่พักคนงานรุกป่า หลังมีชาวบ้านในพื้นที่แจ้งมีกลุ่มคนงานต่างชาติหนีเข้าเมืองมาหลบซ่อนในป่า สอบไปสอบมาทำสุดแสนสงสารเป็นคนงานชาวไทยมาทำงานใช้หนี้จากเงินที่กู้ไปล่วงหน้าในการทำเกษตรกร จึงต้องมาทำงานใช้ชีวิตอย่างจำทน
( 19 ก.พ.64 ) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน ประกอบด้วย ป่าไม้ ตำรวจ กอ.รมน.ระยอง และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น เข้าตรวจสอบที่พักคนงาน บริเวณเชิงเขาภูนั่งยอง ต.สำนักท้อน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง หลังรับการร้องเรียนจากศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบ้านฉาง มีกลุ่มบุคคลลักลอบปลูกสร้างที่พักอาศัยจึงเข้าไปตรวจสอบเมื่อไปถึงพบคนงานจำนวนร่วม 8-10 คน เป็นหญิงและชายอยู่ในบริเวณเพิงพักที่ปลูกสร้างจากวัสดุเหลือใช้จำพวกผ้าใบผ้ายางนำมามัดผูกติดกันกับโครงไม้กระถิน จำนวนร่วม 10 หลัง ภายในเพิงพักพบข้าวของเครื่องใช้ จำพวกเสื้อผ้าและหม้อหุงข้าว ตะเกียง ใกล้กันพบหลุมเผาถ่านสำหรับใช้หุงต้มอาหารจึงถ่ายภาพเป็นหลักฐาน
เจ้าหน้าที่ได้สอบสวนผู้พักอาศัยรับแจ้งว่า คนงานทั้งหมดที่พักอาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวเป็นชาวบ้านมาจาก ต.ท่าตะเกียบ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา มาทำงานใช้หนี้จากเงินกู้ล่วงหน้ากับนายจ้าง จึงต้องมารับจ้างตัดอ้อยในพื้นที่ของอำเภอบ้านฉาง จ.ระยอง โดยมีนายจ้างได้ไปรับมาทำงานแล้วให้มาปลูกเพิงพักในพื้นที่แนวเชิงเขาดังกล่าว และจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุจึงได้ทราบถึงความเป็นอยู่ของกลุ่มคนงานที่มาพักอาศัยว่ามีความเดือดร้อนทั้งไฟฟ้าที่ไม่มีใช้ในยามค่ำคืนต้องใช้ตะเกียงแทน และต้องหาเศษไม้มาเผาถ่านไว้สำหรับหุงต้มทำอาหาร จนเกิดเป็นความสงสาร หดหู่ใจ จึงได้ให้เวลาขนย้ายสิ่งของต่างๆ ออกไปจากพื้นที่ไป
สอบสวนนายสมมิตร แสงสว่าง เจ้าของไร่อ้อย รับว่าคนงานทั้งหมดเป็นของตนที่ไปรับมาจาก อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อมาตัดอ้อยแล้วจึงให้มาปลูกเพิงพักในที่บริเวณนี้โดยไม่รู้ว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ในเรื่องของการรุกล้ำพื้นที่ป่า และสิ่งที่ถูกทางเจ้าหน้าที่มาตรวจ ตนเองขอยืนยันว่าถูกกลั่นแกล้งจากบุคคลปริศนาแน่นอน
เบื้องต้นนายสมยศ สุขถาวร หัวหน้าหน่วยงานป้องกันรักษาป่าที่ ร.ย.2 กรมป่าไม้ ได้ชี้แจงถึงพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่า ตาม พรบ.พ.ศ.2484 ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในความดูแลของกรมป่าไม้ จึงได้ทำการตักเตือนและแจ้งให้ย้ายออกจากพื้นที่ดังกล่าวไป