จากกรณีที่น้องสาวของอดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดหนึ่งเสียชีวิตจากการดูดไขมันที่คลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่งย่านรามคำแหง 

รองอดีตผู้ว่าฯ กล่าวว่า น้องสาวเป็นคนที่สุภาพ ไม่มีโรคประจำตัว ร่าเริงแจ่มใส หลังเกิดเหตุผมไปที่คลินิกพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ มองว่าคลินิกแห่งนี้ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอุปกรณ์ หรือยาที่ใช้รักษา รวมถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งหมอที่ดูดไขมันอายุ 72 ปี ไม่ใช่หมอประจำคลินิก อาจจะไม่มีความชำนาญ ต่อให้ลูกค้าเซ็นยินยอมเข้ารับการผ่าตัดแล้วก็ตาม ขณะที่ผลชันสูตรศพของนิติเวช รพ.ตำรวจ ระบุว่า ระบบหายใจและระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว

ทางด้านลูกชายของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนเองเป็นคนรับโทรศัพท์จากคลินิกที่แจ้งว่า แม่ชีพจรหยุดเต้น อยู่ระหว่างการทำซีพีอาร์ จึงถามทางคลินิกว่า สามารถส่งแม่ไปโรงพยาบาลได้หรือไม่ แต่คลินิกตอบกลับมาว่า มันจะเป็นคดีความ ขอไม่ส่งไปที่โรงพยาบาล และทางคลินิกบอกอีกว่า 90 เปอร์เซ็นต์คุณแม่ไปแล้ว ตนจึงรีบแจ้งให้พี่สาวไปดู

ส่วนลูกสาวของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า คุณแม่เป็นคนรักสวยรักงาม ก่อนที่คุณแม่จะตัดสินใจไปดูดไขมัน ไปปรึกษาโรงพยาบาลเอกชนและคลินิกหลายที่ ก่อนตัดสินใจทำที่คลินิกแห่งนี้ วันเกิดเหตุคุณแม่ต้องเข้ารับการดูดไขมันตั้งแต่เวลา 10.00 น. เสร็จเวลาประมาณช 14.00 น. ตามที่คุณแม่นัดให้ไปรับ แต่จู่ๆน้องชายโทร.มาบอกว่า คุณแม่ชีพจรหยุดเต้น จึงรีบเดินทางไปที่คลีนิค เห็นคุณแม่ในสภาพที่นอนนิ่ง ตัวแข็งตัวเย็นไปแล้ว นอกจากนี้ ตั้งแต่เกิดเรื่องทางคลินิกพยายามติดต่อเข้ามาพูดคุยเรื่องเงินชดเชย แต่ตนไม่ขอพูดคุยเพราะต้องการดำเนินคดีให้ถึงที่สุด