เจ้าหน้าที่ตำรวจตามรวบตัวหนุ่มชิงทรัพย์รถจักรยานยนต์ของนักศึกษาสาวมหาวิทยาลัยราชภัฎพิบูลสงคราม ระหว่างที่ขี่รถจักรยานยนต์ไปหาเพื่อนที่หอพัก แต่เจอคนร้ายยืนถืออาวุธดักกลางถนน ทำให้กลัวจนเบรครถล้มได้รับบาดเจ็บ และคนร้ายได้ชิงรถจักรยานยนต์หลบหนีไป

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก พล.ต.ต. ธวัช วงษ์สง่า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก พร้อม พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ บุญเยี่ยม รอง ผกก.ส.สภ.มืองพิษณุโลก, พต.ท.อรรถวิทย์ สุขทัศน์ สว.สส.สภ.เมืองพิษณุโลก และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก ได้ทำการแถลงข่าวการจับกุมนายบุญส่ง หรือต้อม พรหมสวัสดิ์ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80/259 ถ.ประชาอุทิศ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก หลังก่อเหตุชิงทรัพย์รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้ รุ่นคลิ๊ก สีส้ม-ดำ หมายเลขทะเบียน 1 กท 21 พิษณุโลก ของ น.ส.โดยปริยาย ขุมขำ อายุ 23 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ขณะที่กำลังขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวไปหาเพื่อนที่บริเวณ ถนนพระลือ ซอย 9 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก และทำให้ น.ส.โดยปริยายได้รับบาดเจ็บที่บริเวณเท้าขวา โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 03.00 น. ของวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พบอาวุธมีดขอด้ามไม้ หรือมีดอีหวด ความยาวประมาณ 20 เซนติเมตร ตกอยู่บริเวณสถานที่เกิดเหตุ และพบร่องรอยรถจักรยานยนต์ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เร่งตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดโดยรอบสถานที่เกิดเหตุ และสายข่าวจนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีคนร้ายเป็นชาย สวมเสื้อคลุมสีเขียว ขับขี่รถจักรยานสีน้ำเงิน มาจากบริเวณ ถนนประชาอุทิศ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก และได้ขับขี่จักรยานเข้าไปบริเวณสถานที่เกิดเหตุและก่อเหตุดังกล่าว จนทราบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุ คือ นายบุญส่ง หรือต้อม พรหมสวัสดิ์

กระทั่งวันนี้ ( 22 ก.พ.2564) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก ร่วมกันจับกุมตัวนายบุญส่งได้ที่บ้านพักอาศัยบริเวณบ้านเลขที่ 104/13 ถนนประชาอุทิศ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก พร้อมด้วยของกลาง รถจักรยาน สีน้ำเงิน จำนวน 1 คัน ที่ให้ก่อเหตุ และยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) พร้อมอุปกรณ์การเสพจำนวนหนึ่ง และตรวจยึดรถจักรยายนต์ของผู้เสียหาย จำนวน 1 คัน และเสื้อผ้าที่ผู้ต้องหาสวมใส่ขณะก่อเหตุไว้เป็นของกลางในคดี และได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีฐาน "ชิงทรัพย์" โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นจากการจับกุมในเวลากลางคืน / เสพและมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมายเบื้องต้นทาง พล.ต.ต. ธวัช วงษ์สง่า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก ได้ลงมือสอบสวน นายบุญส่ง ให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุจริงในวันดังกล่าว แต่ที่ว่าใช้อาวุธมีดขอด้ามไม้ หรือมีดอีหวดทำให้กลัวที่จริงเป็นเบ็ดตกปลา ในขณะที่อาวุธมีดขอด้ามไม้ หรือมีดอีหวด นั้นวางไว้ข้างทางเท่านั้น

ในขณะที่ น.ส.โดยปริยาย กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุตนกำลังขี่รถจักรยานยนต์ไปหาเพื่อนแต่หลงคิดว่าถนนพระลือ ซอย 9 จะมีทางทะลุไปได้ แต่เมื่อไปถึงพบเห็น นายบุญส่ง อยู่ข้างทางและมีท่าทางเดินเข้ามาทำร้าย เพราะในมือถือมีดขอด้ามไม้ หรือมีดอีหวด ทำท่าชูขึ้น ตนเกิดความกลัวจึงเบรกรถกะทันหันทำให้รถล้มทับที่ขา และนายบุญส่งได้เดินเข้ามาใกล้ตนและกอดร่างตนจึงรีบสะบัดหนี จากนั้นนายบุญส่งได้ชิงรถจักรยานยนต์ของตนแล้วขับขี่ออกไป ตนจึงรีบติดต่อเพื่อนมาช่วยเหลือและเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลพบว่ากระดูกนิ้วเท้าขวาหัก ต้องพักรักษาตัวนาน 3-4 อาทิตย์

ซึ่งนอกจากนี้ พล.ต.ต. ธวัช วงษ์สง่า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ฝากเตือนประชาชนในช่วงนี้ที่เดินทางในช่วงกลางคืนและต้องไปในที่เปลี่ยวต้องระมัดระวัง เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นได้ แต่อย่างไรเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในการป้องกันอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน