มท.1 ห่วงปชช.ช่วงฤดูร้อน สั่งทุกจังหวัดติดตามสภาพอากาศใกล้ชิด
28 ก.พ. 2564, 18:14
วันนี้ ( 28 ก.พ.64 ) พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เปิดเผยว่า กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติได้ติดตามการคาดหมายลักษณะอากาศช่วงฤดูร้อนของประเทศไทยร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยาพบว่า ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงกลางเดือนพฤษภาคม 2564 ประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศร้อนหลายพื้นที่ในตอนกลางวันจากนั้นช่วงกลางเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายนจะมีอากาศร้อนอบอ้าวเป็นระยะ ๆ มีอากาศร้อนบางแห่ง และจะมีพายุฤดูร้อนในหลายพื้นที่ รวมทั้งจะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตกในบางแห่ง อันจะก่อให้เกิดการสูญเสียต่อชีวิต ทรัพย์สินของประชาชน รวมถึงผลผลิตทางการเกษตรได้
พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา กล่าวว่า เพื่อเป็นการเตรียมรับสถานการณ์พายุฤดูร้อนที่อาจเกิดขึ้นในทุกพื้นที่ จึงได้สั่งการไปยังกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดดำเนินการ ด้านการเตรียมความพร้อม โดยติดตามการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด พร้อมมอบหมายเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแจ้งเตือนประชาชนให้ทราบสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และเร่งตรวจตราอาคารสถานที่ ป้ายโฆษณา สิ่งก่อสร้างที่มีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรง ไม้ยืนต้นตามที่สาธารณะที่อาจก่อให้เกิดสาธารณภัยได้ และแจ้งหน่วยงานตามกฎหมายเข้าตรวจสอบซ่อมแซมให้มั่นคงแข็งแรง พร้อมทั้งเชิญชวนประชาชนจิตอาสาเข้ามามีส่วนร่วมสอดส่อง ปรับปรุง ดูแลให้เกิดความปลอดภัย นอกจากนี้ ให้เตรียมความพร้อมบุคลากร อุปกรณ์ ทรัพยากร เครื่องจักรกลสาธารณภัย ให้พร้อมช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างรวดเร็วและทันท่วงที และสร้างการรับรู้ให้ประชาชนทราบถึงแนวทางการปฏิบัติตนให้เกิดความปลอดภัย การตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงที่พักอาศัย ช่องทางการรับความช่วยเหลือจากภาครัฐ ตลอดจนมาตรการต่าง ๆ ของภาครัฐในการดูแลประชาชนผ่านช่องทางการสื่อสารทุกช่องทางอย่างต่อเนื่อง
สำหรับในด้านการเผชิญเหตุ หากเกิดเหตุวาตภัยที่ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินในพื้นที่ใด ให้เร่งสำรวจความเสียหายและเข้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามกฎ ระเบียบ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว ในกรณีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย ให้แบ่งมอบภารกิจ พื้นที่รับผิดชอบ และบูรณาการหน่วยงานจัดกำลังในรูปแบบทีมประชารัฐ เร่งซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนอย่างเร่งด่วน หากเป็นกรณีป้ายโฆษณา สิ่งก่อสร้าง ไม้ยืนต้น หรือโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะระบบไฟฟ้าได้รับความเสียหาย ให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าแก้ไขไม่ให้กีดขวางพื้นที่สาธารณะและซ่อมแซมให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติโดยเร็ว และในกรณีความเสียหายต่อผลผลิตทางการเกษตร ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและท้องที่ ร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือตามกฎ ระเบียบ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว และเมื่อเกิดสถานการณ์วาตภัยจากพายุฤดูร้อนขึ้นในพื้นที่ ให้สรุปสถานการณ์และรายงานมายังกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลางโดยเร็วต่อไป
พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงมหาดไทยมีความห่วงใยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนในช่วงฤดูร้อนโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนทุกคนเป็นลำดับแรก ทั้งนี้ หากประสบภัยในพื้นที่ สามารถแจ้งขอความช่วยเหลือทางสายด่วนนิรภัย โทร. 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง