ปชช.-นทท.แห่ชิมน้ำแร่โซดา 5 วัน เกือบ 2 หมื่นคน ยังไม่มีกำหนดปิด ชวนมาทดลองได้ทุกวัน
1 มี.ค. 2564, 14:23
ความคืบหน้ากรณีนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล มอบหมายให้นายทนงศักดิ์ ล้อชูสกุล ผอ.สำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 2 (สุพรรณบุรี) ลงสำรวจพื้นที่สำรวจพื้นที่เพื่อเจาะหาแหล่งน้ำบาดาล บรรเทาความเดือดร้อนจากภัยแล้งซ้ำซากให้แก่ประชาชนในพื้นที่ ต.ห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี ตามโครงการศึกษา สำรวจ และรูปแบบการพัฒนาน้ำบาดาลจากแหล่งกักเก็บในหินแข็งระดับลึกในพื้นที่ธรณีวิทยาโครงการซับซ้อน
ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ที่ได้มอบหมายให้นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สั่งการให้ กรมทรัพยากรน้ำบาดาลเร่งช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยแล้งในพื้นที่ ต.ห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพื้นที่แล้งซ้ำซากยาวนาวมามากกว่า 30 ปี
ผลดำเนินการ สามารถเจาะหาแหล่งน้ำบาดาลได้จำนวน 3 บ่อ บ่อแรกลึก 280 เมตร บ่อที่สองลึก 224 เมตร และบ่อที่สามลึก 303 เมตร โดยบาดาลที่เจาะได้ทั้ง 3 บ่อตั้งอยู่พื้นที่บ้านสระตาโล หมู่ 12 ต.บ่อพลอบ อ.บ่อพลอย แต่ที่สร้างความฮือฮาให้กับคนไทยทั้งประเทศที่สุดคือ น้ำบาดาลที่พุพวยพุ่งขึ้นมาจากบ่อที่ 2-3 มีรสชาติหวานและซ่าคล้ายโซดา
จากนั้นนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้สั่งการให้ติดตั้งอุปกรณ์ผลิตน้ำแร่โซดาห้วยกระเจา 8 ขั้นตอน เริ่มจากเก็บน้ำดิบจากบ่อบาดาล เข้าไปเก็บในถังเก็บน้ำดิบขนาด 1,000 ลิตร จำนวน 5 ถัง จากนั้นน้ำดิบจะไหลผ่านเข้าถัง “แมงกานีสกรีนแซนด์” เพื่อกรองสนิมเหล็ก แล้วผ่านเข้าถัง “แอนทราไซด์” ที่ทำหน้าที่กรองสนิมเหล็กและแมงกานีส แล้วน้ำจะผ่านเข้าถัง “คาร์บอน” ที่เป็นตัวกรองกลิ่นและสี แล้วผ่านเข้าถัง “RO” เพื่อลดฟลูออไรด์ และความกระด้าง เมื่อได้น้ำดีจากถังคาร์บอนและ RO น้ำจะผ่านเข้าสู่แท่งยูวี เพื่อฆ่าเชื้อโรคและแบคทีเรีย โดยเริ่มเปิดโอกาสให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวมาทดลองดื่มได้ตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.64 ที่ผ่านมา
ล่าสุดวันนี้ 1 มี.ค.64 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายทนงศักดิ์ ล้อชูสกุล ผอ.สำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 2 (สุพรรณบุรี) เปิดเผยว่าจากการค้นพบพุบาดาลที่มีรสชาติซ่าคล้ายโซดาในครั้งนี้ ก็ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนในทุกแขนง หลังจากมีการนำเสนอข่าวออกไปก็ได้รับความสนใจจากประชาชนทั้งประเทศ
โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้ประกาศให้ประชาชนรวมทั้งนักท่องเที่ยวได้มีโอกาสเดินทางมาท้องเที่ยวและทดลองดื่มน้ำแร่โซดาอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยทุกคนที่มาจะต้องสวมหน้ากากอนามัย และผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิในร่างกาย ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ รวมทั้งต้องลงทะเบียนก่อนเข้าพื้นที่ทุกคน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ซึ่งทุกคนที่มาต่างก็ให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดี
จากสถิติพบว่า ระหว่างวันที่ 24-28 ก.พ.64 รวม 5 วัน มีประชาชนรวมทั้งนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศ เดินทางมุ่งหน้ามาทดลองดื่มน้ำพุโซดา เกือบ 20,000 คน ซึ่งทุกคนที่มาจะได้รับน้ำแร่โซดากลับไปคนละ 500 ซีซี ซึ่งขณะนี้ผู้บังคับบัญชายังไม่มีการสั่งการให้ปิดบ่อ เพื่อติดตั้งหอกระจายน้ำระยะไกลแต่อย่างใด ดังนั้นประชาชนและนักท่องเที่ยวยังสามารถเดินทางมาทดลองดื่มน้ำแร่โซดาได้ตามปกติ จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงจากนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 5 มี.ค.64 นี้นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาหารือแนวทางการใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำใต้ดินในพื้นที่ดังกล่าว โดยจะมีอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล หรือผู้แทน อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร หรือผู้แทน และเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) หรือผู้แทน มาประชุม ที่ห้องประชุมแควใหญ่ ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี และนอกจากนี้ จังหวัดกาญจนบุรียังได้เชิญหน่วยงานด้านเศรษฐกิจ ด้านการเกษตร ด้านการท่องเที่ยว รวมทั้งด้านสุขภาพและอนามัย และด้านประชาสัมพันธ์เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย./