นายกฯ เผยยังไม่พบผู้มีอาการแพ้รุนแรงหลังฉีดวัคซีน มอบ กต.หารือ "พาสปอร์ตวัคซีน"
3 มี.ค. 2564, 12:09
วันนี้ (3 มี.ค. 2564) เวลา 10.30 น. ณ บริเวณทางเชื่อมตึกภักดีบดินทร์ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนภายหลังพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการบูรณาการเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางรายครัวเรือนระหว่าง 12 กระทรวง 1 หน่วยงาน บูรณาการร่วมกันของกระทรวงต่าง ๆ เพื่อดูแลประชาชนกลุ่มเปราะบาง ซึ่งเป็นภารกิจของรัฐบาลที่จะต้องดูแลผู้มีรายได้น้อย ผู้พิการ ผู้สูงอายุ ยืนยันรัฐบาลไม่เคยทอดทิ้ง ทั้งนี้ประชาชนทุกคนรักษาสิทธิที่ตนเองได้รับ อาทิ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรผู้พิการเพื่อรับเบี้ยผู้พิการ รวมทั้งการเข้าถึงมาตรการของรัฐ รัฐบาลมีแผนการดำเนินงานสอดคล้องกับงบประมาณ รวมทั้งการส่งเสริมการสร้างอาชีพ เศรษฐกิจแบบใหม่ อุตสาหกรรมแบบใหม่ที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม การดูแลผู้ประกอบการ SMEs เพื่อเข้าถึงแหล่งเงินทุนของรัฐอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการผ่อนคลายมาตรการในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ว่า อยู่ระหว่างการหารือเพื่อป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาดซ้ำ ที่ผ่านได้อนุญาตให้มีการเดินทางข้ามจังหวัดเพื่อท่องเที่ยว ซึ่งขอให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการดูแลตนเอง สวมใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และเรียนรู้ที่จะอยู่กับโควิด-19
นายกรัฐมนตรีกล่าวยินดีที่มีการฉีดวัคซีนภายในประเทศไทยแล้ว ซึ่งจากการติดตามยังไม่มีพบผู้มีอาการข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน รัฐบาลยืนยันว่า ซึ่งขณะนี้เป็นการใช้วัคซีนโควิด-19 ในสถานการณ์ทางการแพทย์ฉุกเฉิน การกระจายวัคซีนโควิด-19 ต้องทั่วถึงและเป็นธรรม โดยเฉพาะกลุ่มเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานและมีความเสี่ยงสูง อาทิ บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ตามด่านตรวจคัดกรอง รวมถึงอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และจะมีการจัดหาวัคซีนโควิด-19 เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ครอบคลุมในจังหวัดที่เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวด้วย เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย ควบคุมการแพร่ระบาดได้ จำนวนผู้ติดเชื้อลดลง ก็จะเปิดให้ภาคเอกชนนำเข้าวัคซีนโควิด-19 ได้เพื่อใช้ในสถานการณ์ปกติ อย่างไรก็ตามต้องผ่านการรับรองประสิทธิภาพโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาด้วย ทั้งนี้ ยังมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ พิจารณา“พาสปอร์ตวัคซีน” เพื่อให้มีเดินทางระหว่างประเทศที่มีการฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว