ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ มอบบัตรประชาชนช่วยเหลือผู้ป่วย ในการรักษาพยาบาล
4 มี.ค. 2564, 11:39
นายสมบูรณ์ สิรินะการ ได้โพสต์ลงโซเชียล facebook เพจfacebook สุราษฎร์ธานี ว่า บิดาของตนเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีด้วยโรคหัวใจ แต่มีค่าใช้จ่ายสูงประมาณ 1 แสนบาท แต่บิดาไม่มีบัตรสวัสดิการ 30 บาทเนื่องจากไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน จึงขอรับบริจาคจากผู้ใจบุญร่วมสมทบทุนเป็นค่ารักษาพยาบาลดังกล่าว ซึ่งหลังจากนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีทราบข่าวแล้ว ได้สั่งการให้นายอำเภอไชยาและพมจ.สุราษฎร์ธานี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น
จากการตรวจสอบทราบว่าบิดาของนายสมบูรณ์ พื้นเพเดิมเป็นชาวจังหวัดอุบลราชธานี ได้ออกจากบ้านมาทำงานที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่อายุ 15 ปี โดยยังไม่ได้ทำบัตรประชาชนและได้ตระเวนหางานทำไปเรื่อยๆ และได้อยู่กินฉันสามีภรรยากับนางสุดใจ สิรินะหาร มีบุตรด้วยกัน 3 คน ต่อมาเมื่อปี 2538 ได้มาทำงานรับจ้างในพื้นที่ตำบลปากหมากอำเภอไชยา พร้อมกับภรรยาและลูกทั้งสามคน จนเก็บเงินซื้อที่ดินเป็นของตนเอง ระยะหลังเริ่มป่วยแพทย์ที่โรงพยาบาลไชยา และส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ซึ่งหมอวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ต้องผ่าตัดทำบอลลูนหัวใจ มีค่ารักษาพยาบาลประมาณ 1 แสนบาท ซึ่งบุตรชายคนเล็กเกรงว่าจะไม่มีเงินพอจ่ายค่ารักษาพยาบาลของบิดาจึงได้โพสต์ลง facebook เพื่อขอรับเงินบริจาคดังกล่าว
ล่าสุดวันที่ 4 มีนาคม 2564 นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เดินทางไปยังที่ว่าการอำเภอไชยา เพื่อมอบบัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน ให้กับนายแอด หรือลุงอ้วน สิรินะหาร เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการติดต่อขอรับบริการและสวัสดิการต่างๆจากหน่วยงานรัฐต่อไป ซึ่งสร้างความปลาบปลื้มให้แก่นายแอดหรือลุงอ้วนและครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง โดยมีนายเจริญศักดิ์ วงศ์สุวรรณ นายอำเภอไชยา ปลัดอําเภอ นายนิวัฒน์ เหรัญญะกำนันตำบลเวียงในฐานะนายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอไชยา ร่วมเป็นสักขีพยานด้วย
นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ยังได้ประสานกับธนาคารกรุงไทย คลังจังหวัด และผู้เกี่ยวข้อง จัดส่งเจ้าหน้าที่ออกให้บริการลงทะเบียน "เราชนะ" แก่ผู้สูงอายุป่วยติดเตียงรายดังกล่าวด้วย สร้างความปลาบปลื้มดีใจแก่ราษฎรรายดังกล่าวและญาติพี่น้องเป็นอย่างยิ่ง ที่ทางจังหวัดให้ความสำคัญต่อความทุกข์ยากของประชาชน.