วันที่ 5 มิ.ย.62 ผู้สื่อข่าว onb news รายงานว่า นายพรศักดิ์ ศักดิ์ธานี ประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ประมง นำหอยแครงขนาดต่าง ๆ บรรจุใส่กระสอบปุ๋ย น้ำหนักรวมกว่า 500 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 100,000 บาท ซึ่งเป็นของกลางหลังตรวจยึดได้จากแพปลาเจ๊แมว พื้นที่ตำบลปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจภูธรเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อดำเนินคดีกับผู้รับซื้อหอยแครง เนื่องจากไม่มีหลักฐานการบันทึกการรับซื้อ แหล่งที่ไปที่มาของหอยแครงดังกล่าวตามแบบฟอร์มที่กำหนด ซึ่งมีความผิดตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 มาตรา 61 และมาตรา 85 (มาตรา 61 ห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครองเพื่อการค้าซึ่งสัตว์น้ำหรือผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ โดยรู้ว่าเป็นสัตว์น้ำหรือผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำที่ได้มาโดยการกระทำความผิดตามมาตรา 58 มาตรา 60 หรือจากการทำการประมงโดยฝ่าฝืนกฎหมายอย่างร้ายแรงตามมาตรา 114 หรือที่ได้มาจากเรือประมง ที่ต้องห้ามมิให้เข้ามาในราชอาณาจักรตามมาตรา 94 หรือที่มีชื่ออยู่ในประกาศรายชื่อตามมาตรา 116 และมาตรา 85 เจ้าของท่าเทียบเรือประมงตามมาตรา 84 หรือผู้ประกอบกิจการแพปลา ต้องบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับเรือประมงทุกลำที่เข้าใช้บริการจอดเรือ ขนถ่ายสัตว์น้ำ หรือนำสัตว์น้ำ หรือผลิตภัณฑ์สัตว์น้าขึ้นท่าเทียบเรือประมง และต้องเก็บบันทึกไว้เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่สามารถ ตรวจสอบได้ ตามรายการ วิธีการ และระยะเวลาที่อธิบดีประกาศกำหนดให้เจ้าของท่าเทียบเรือประมงหรือผู้ประกอบกิจการแพปลา ดำเนินการรวบรวมและจัดส่งรายงาน การเข้าออกเรือตามมาตรา 81 ไปที่ศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้าออก ตามวิธีการที่อธิบดีประกาศกำหนด)

 

 

 

นายพรศักดิ์ ศักดิ์ธานี ประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวถือว่าเจ้าของแพปลา หรือผู้รับซื้อหอยแครง มีความผิดตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 มาตรา 61 และมาตรา 85 มีอัตราโทษดังนี้ มาตรา 142 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 61 ต้องระวางโทษปรับหนึ่งหมื่นบาทหรือปรับจำนวนห้าเท่า ของมูลค่าสัตว์น้ำที่มีไว้ในครอบครอง แล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า และมาตรา 154 ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา 84 หรือมาตรา 85 ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงหนึ่งล้านบาท