พุทธศาสนิกชนแห่ต้อนรับ "หลวงตาบุญชื่น" ตลอดเส้นทางเดินธุดงค์ จากนครพนม - เชียงราย ขณะผ่านจังหวัดน่าน
5 มี.ค. 2564, 13:13
วันที่ 5 มี.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ถนนสายน่าน-สา พุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดน่าน แห่รอหลวงตาชื่น หรือ หลวงตาบุญชื่น ปัญญาวุฒโน อายุ 73 ปี บวชมาแล้ว 11 พรรษา โดย หลวงตาชื่น ได้เดินเท้า ธุดง มาจาก วัดท่าจำปา อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ตามเส้นทางจังหวัดต่างๆ เพื่อไปจังหวัดเชียงราย โดยในวันนี้ได้เดินธุดงค์ ผ่านจังหวัดน่าน ได้มีคณะศรัทธา พุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดน่าน รอกราบไหว้ และถวายน้ำ ตลอดเส้นทางเดินธุดงค์
พุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดน่าน บางคนมารอ หลวงตาชื่น ตั้งแต่ 7โมงเช้า บางคนมารอตั้งแต่เมื่อคืน เพื่อได้กราบไหว้ เพื่อเป็นศิริมงคลกับชีวิต นอกจากนนี้ ผู้ศรัทธา ยังเอาเสื้อผ้า ผ้าขาว ปูตามพื้นตลอดเส้นทางเดิน ให้หลวงตาเหียบและนำกลับไปบูชาเป็นศิริมงคล
โดยตลอดการเดินธุดงค์ของหลวงตาชื่น จะไม่รับบิณฑบาต อาหาร ปัจจัย ใดๆ จะรับแต่น้ำดื่มเพียงเท่านั้น แต่น้ำดื่มที่มีคนนำมาถวายมากเกิน หลวงตาชื่นก็จะให้ลูกศิษย์ นำไปให้โรงเรียนต่างๆ ที่หลวงตาได้เดินธุดงค์ผ่าน จะเก็บไว้แค่พอฉันเพียงเท่านั้น
ในวันนี้จะจำวัด อยู่ที่วัดพระธาตุแช่แห้งพระอารามหลวง และรุ่งเช้าจะเดินธุดงค์ จะเริ่มเดินทางออกจากจังหวัดน่าน ตามเส้นทาง ไปยัง อ.ท่าวังผา อ.สองแคว จ.น่าน และเข้า อ.เชียงคำ จ.พะเยาต่อไป
“หลวงตาบุญชื่น” เดิมมีชีวิตพื้นฐานเกิดที่บ้านเสาเล้า ต.โพนสวรรค์ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม เป็นอดีตทหารผ่านศึกเวียดนาม กองพลเสือดำ ปี 2512 สังกัดกองพันทหารปืนใหญ่ จ.อุดรธานี ผ่านการฝึกรบพิเศษมาแล้ว เคยมีชีวิตครอบครัวมาก่อน ขอครอบครัวลาบวช เพราะต้องการแสวงหาสัจธรรมของชีวิต ชอบหลักธรรมคำสอนของ “หลวงปู่มั่น” จึงเข้าอุปสมบท เมื่อปี 2552 บรรพชาฉลอง 80 พรรษา ในหลวงรัชกาลที่ 9 แล้ว ซึ้งในรสพระธรรม จึงไม่ลาสิกขา เคยมาจำพรรษาอยู่บ้านนาผาง ต.กกปลาชิว อ.ภูพาน จ.สกลนคร ได้ 4 พรรษา และอุปสมบทได้ 7 พรรษาแล้ว ในพรรษาที่ผ่านมาจำพรรษาที่พักสงฆ์บ้านเสาเล้า ที่วัดบ้านเกิด ทุกปีจะไปจำวัดตามป่าเขา ก่อนนี้ไปจำพรรษาในถ้ำเตียงสิริขันธ์ บนเทือกเขาภูพาน จ.สกลนคร มาต่อเนื่อง 4 ปี ในปีนี้ “หลวงตาบุญชื่น” หลังออกพรรษาปีนี้ตรงกับวันที่ 2 ตุลาคม 2563 จึงเริ่มออกธุดงค์จากที่พักสงฆ์ถิ่นฐานบ้านเกิด ขาไปออกจาก จ.นครพนม จะเดินธุดงค์เท้าเปล่า บนบ่าซ้ายสะพายบาตร บ่าขวาสะพายย่าม ท่ามกลางแสงแดดที่ร้อน โดยกำหนดต้องเดินให้ได้วันละ 25-30 กม. ใช้เวลาเดินประมาณ 4 กม.ต่อชั่วโมง
สำคัญที่สุด คือ กิจของสงฆ์จะต้องไม่ขาด มีบิณฑบาต ทำวัตรเช้าเย็น สวดมนต์ เจริญภาวนา และศึกษาธรรมะ หากญาติโยมที่ต้องการสนทนาธรรม ยินดี ไม่ขอรับปัจจัย มีผู้ถวายน้ำเปล่าท่านรับพร้อมกับมอบกลับคืน พร้อมกับใช้ไม้เท้าหุ้มด้วยผ้าจีวร เคาะหัวให้เป็นมงคล 2 ครั้ง ลูกศิษย์ที่มาด้วยว่าน้ำที่ “หลวงตาบุญชื่น” มอบกลับคืนเป็นน้ำมนต์นำกลับไปบูชา เพื่อเป็นสิริมงคล