หนุ่มวัย 39 เผยนาทีระทึก! ตำรวจไลล่าตามจับรถ "คนเมายา" หลังก่อเหตุชนรถชาวบ้านพังเสียหาย
8 มี.ค. 2564, 18:47
จากกรณีผู้ใช้ facebook ชื่อ parinya janthong ได้โพสต์ข้อความ พร้อมภ่ายคลิปวีดีโอ ไล่ล่า ชนดะ ในตลาดย่าโม ไล่ชนรถชาวบ้านเสียหายหลายคัน ไล่มาจนมุมตรงแยกไฟแดงศูนย์ toyata ก่อนถึงห้างสรรพสินค้า lotus ก่อนจะมีคนคอมเม้นและแชร์เป็นจำนวนมาก ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ บริเวณจุดเกิดเหตุ อยู่บริเวณ หน้าโรงแรมเคเอสพาวิลเลี่ยน ถนนมิตรภาพ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ได้พูดคุยเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในที่เกิดเหตุว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร
โดยนายปริญญา จั่นทอง อายุ 39 ปี คนถ่ายคลิปเหตุการณ์ เล่าว่า ตนได้มาทำธุระอยู่ในตลาดย่าโมพอดีระหว่างนั้นได้มีรถคันที่ปรากฏตามคลิปได้ขับรถเข้ามาพยายามจะชนตนเอง แต่ตนเองหลบทันจังหวะนั้นจึงได้เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขับตามเป็นจำนวนมาก จึงตัดสินใจหยิบกล้องมือถือถ่ายไว้และขับรถตามเจ้าหน้าที่ไป ระหว่างที่ยิงยางรถยนต์ตอนแรกตนเองไม่รู้ แต่พอได้ยินเสียงปืนและจังหวะที่เจ้าหน้าที่ยิงยางตนก็รู้สึกตกใจมาก พยายามถอยห่างออกจากจุดเกิดเหตุ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจับกุมตัวได้ในที่สุด ส่วนการหลบหนีตนมองว่าน่าจะเกิดอาการมึนเมาไม่งั้นก็ยาเสพติดอย่างแน่นอน
ด้าน ด.ต.สมศักดิ์ มุ่งเขื่องกลาง ผบ.หมู่งานจราจร สภ.เมืองนครราชสีมา คนยิงยางผู้ต้องหา ให้ข้อมูลว่า เหตุเกิดเมื่อเวลา 11.00 น. พบรถ toyota yaris สีขาว ทะเบียน ขน 1634 นครราชสีมา ได้ขับขี่ฝ่าฝืนเครื่องหมายบนทางเท้าหรือเส้นทึบ บริเวณหน้าโรงเรียนเคสพาวิลเลี่ยม หลังจากนั้นได้เรียกให้จอดข้างทาง ก่อนมีการแจ้งข้อหาให้กับผู้ขับขี่ ทราบชื่อภายหลัง นาย ก. ( นามสมมติ) อายุ 29 ปี ก่อนที่จะขอตัวไปเอาของที่รถหลังจากนั้นได้ขับขี่รถดังกล่าวหลบหนีไป ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะขับขี่มอเตอร์ไซค์ติดตามไปอย่างกระชั้นชิด โดยทางผู้ต้องหาไม่มีท่าทีว่าจะจอดรถแต่อย่างใด และพาเจ้าหน้าที่ขับวนอยู่รอบตัวเมืองเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร อีกทั้งยังมีการขับขี่ชนรถของประชาชนจำนวน 2-3 คัน ได้รับความเสียหาย โดยระหว่างที่มีการไล่ล่านั้น ได้มีทางพลเมืองดีจำนวนหลายคนได้ขับขี่ตามประกบ เพื่อบังคับให้ผู้ต้องหาได้จอดรถข้างทาง เพิ่งจะมาถึงจุดเกิดเหตุบริเวณจุดยูเทิร์นโรงพยาบาลกรุงเทพราชสีมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตัดสินใจที่จะยิงยางรถคันดังกล่าวจำนวน 4-5 นัด เพื่อป้องกันไม่ให้ทางผู้ต้องหาหลบหนี หลังจากนั้นได้มีการคุมตัวไปสอบสวนที่ตู้จราจร และมีการค้นรถคันดังกล่าวพบอุปกรณ์การเสพไอซ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวชายดังกล่าวมาตรวจสารเสพติดพบว่ามีสารเสพติดอยู่ในร่างกาย ก่อนจะส่งตัวให้กับพนักงานสอบสวนเพื่อทำการขยายผลต่อไป ในส่วนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา มีสารเสพติดประเภท 1 อยู่ในร่างกาย, หลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ, ฝ่าฝืนกฎจราจร ( พ.ร.บ.จราจร )