วันที่ 5 มิ.ย.2562  ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่บริเวณ ห้องประชุม สำนักงานเทศบาลตำบลหนองมะโมง อ.หนองมะโมง จ.ชัยนาท ม.ร.ว.สมลาภ กิติยากร ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สภากัญชาแห่งประเทศไทย จ.ชัยนาท พร้อมด้วย นายพุฒิพัฒณ์ ทิพย์ปรีชาธร ประธานสภากัญชาแห่งประเทศไทย จ.ชัยนาท และ ดร.อัศดา วุฒธนานันท์ รองประธานภาค สภากัญชาแห่งประเทศไทย ภาคเหนือ และคณะกรรมการสภากัญชาแห่งประเทศไทย จังหวัดชัยนาท ได้ร่วมประชุมและให้ความรู้กับแกนนำชาวบ้าน ในพื้นที่ของ จ.ชัยนาท

ซึ่งการประชุมในครั้งนี้เป็นการให้ความรู้เรื่องเกี่ยวกับกฎหมายยาเสพติด และการรวมกลุ่มกันปลูกกัญชา โดยเฉพาะเรื่องกัญชา ที่ประชาชนกำลังเข้าใจว่า สามารถปลูกได้แล้วไม่ผิดกฎหมาย และการไปขึ้นทะเบียนครอบครองกัญชาที่สาธารณสุขจังหวัด ซึ่งมีประชาชนจำนวนมากยังเข้าใจผิด อาจจะนำไปสู่การกระทำที่ผิดกฎหมายก็ได้ ทาง สกท. จึงทำความเข้าใจกับประชาชน และแกนนำประชาชน เพราะการจะปลูกกัญชานั้น จะต้องทำในรูปแบบวิสาหกิจชุมชน ที่มีวัตถุประสงค์ชัดเจน โดยผ่านสภากัญชาแห่งประเทศไทย ระดับประเทศ ระดับภาค ระดับจังหวัด ระดับอำเภอ ระดับตำบล และระดับหมู่บ้าน ซึ่งทาง สกท. ต้องทำเอ็มโอยู หรือ บันทึกความเข้าใจ และข้อตกลงร่วมกับสถาบันทางการศึกษาก่อน โดยขณะนี้มีสถาบันอุดมศึกษา หรือ มหาวิทยาลัยต่างๆ กำลังติดต่อ สกท. เพื่อปลูกกัญชา และส่งผลผลิตให้กับ สถาบันทางการศึกษา ซึ่งทาง สทก. กำลังพิจารณา ส่วนกรณี การไปที่สาธารณสุขจังหวัด เพื่อขอครอบครองกัญชานั้น ทางการจะอนุญาตให้เฉพาะผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็ง ไม่ได้หมายถึง ขออนุญาตครอบครองกัญชา หรือ ปลูกกัญชา

ด้าน ดร.อัศดา วุฒธนานันท์ รองประธานภาค สภากัญชาแห่งประเทศไทย ภาคเหนือ กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเองเป็นรองประธานภาค มีหน้าที่ช่วยเหลือพี่น้อง 17 จังหวัดภาคเหนือ และ 18 จังหวัดภาคกลาง เพื่อให้ชาวบ้านได้เข้าถึงกัญชา ตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ในราชกิจจานุเบกษาเราได้ศึกษารายละเอียดแล้ว เจตนารมณ์ก็คือให้พี่น้องประชาชนได้เข้าถึงกัญชา ตามมาตร 26/5 (1) และ (4) ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าว ทางสภากัญชาได้อธิบายใหกับพี่น้องประชาชนเข้าใจในสิ่งที่ถูกต้อง และขณะนี้ หลายจังหวัดของประเทศ ได้มีการบรรทึกข้อตกลงการวิจัยกัญชาเพื่อทางการแพทย์นำร่องไปหลายจังหวัดแล้ว ทั้งนี้ก็อยากให้ประชาชนที่จะเข้าถึงกัญชานั้นศึกษากฎหมายให้ละเอียด และจะประสบความสำเร็จที่แน่นอน